Denza N7 รถยนต์ไฟฟ้าพิกัด mid-sized SUV กำลังจะมีรุ่น Minorchange ตามมาแล้ว ในฐานะรุ่นปี 2024 ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงทั้งดีไซน์, ลูกเล่น และขุมพลังของรุ่นเริ่มต้นรุ่นใหม่ โดยก่อนจะถึงกำหนดการเปิดตัวในช่วงต้นเดือนหน้า ทางการได้เผยภาพและรายละเอียดบางส่วน รวมถึงมิติตัวถังดังนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,860 x 1,935 x 1,602 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,940 มิลลิเมตร

 

Denza N7 Minorchange เพิ่มสีตัวถังใหม่กับสีฟ้า Xizi Blue ด้านหน้าเปลี่ยนไฟหน้าใหม่ซึ่งยังมีรูปทรงคล้ายของเดิม แต่ดูเพรียวบางลง กันชนหน้าปรับใหม่เช่นกัน ทั้งดีไซน์ช่องดักลมและแถบไฟ LED จากเดิมที่เป็นแนวตั้งทำมุมเอียงยาวสุดขอบ บัดนี้ปรับเป็นแนวนอนและลดความยาวลง ไฟท้ายเป็นแถบไฟเพรียวยาวตลอดแนว และยังมีการเพิ่มโลโก้ EV ที่มุมล่างขวาของฝาท้าย ทุกรุ่นมาพร้อมหลังคา Sunroof

ห้องโดยสารของ Denza N7 Minorchange ปรับจากเดิมไม่มากนัก โดยยังคงระบบแสดงผล 3 จอเอาไว้ ประกอบด้วย มาตรวัดแบบ full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสกลางแดชบอร์ดขนาด 17.3 นิ้ว และ หน้าจอแสดงผลฝั่งผู้โดยสารขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมเพิ่มระบบเชื่อมต่อ DiLink Smart Car รองรับการสั่งการด้วยเสียง, ระบบจดจำใบหน้า, เชื่อมต่อ 5G ได้ และควบคุมผ่าน mobile app จากระยะไกลได้

 

ขุมพลังของ Denza N7 Minorchange เป็นระบบไฟฟ้า EV มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบดังนี้

  • แบบใหม่ มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 231 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • เหมือนเดิม แบตเตอรี่แบบ Blade ความจุ 91.3 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.8 วินาที ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 702 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC
  • เหมือนเดิม แบตเตอรี่แบบ Blade ความจุ 91.3 kWh พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ มอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 218 แรงม้า มอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 313 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.9 วินาที ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 630 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC

Denza N7 Minorchange รองรับที่ชาร์จสูงสุด 230 kW ช่วยลดเวลาการชาร์จที่ระดับเหนือ 80% ขึ้นไปลง 40% และลดเวลาชาร์จได้ 12% สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมจะตามมาตอนเปิดตัวในวันที่ 1 เมษายน 2024 รวมถึงข้อมูลราคา ส่วน Denza N7 รุ่นก่อนมีราคาจำหน่ายที่จีน 301,800 – 379,000 หยวน (ราว 1,540,000 – 1,934,000 บาท) ซึ่งการเพิ่มรุ่นเริ่มต้นรุ่นใหม่เข้ามา ทำให้คาดการณ์ได้ว่าราคาเริ่มต้นจะลดลงจากรุ่นก่อน

 

ที่มา: carnewschina