ระบบ Idling Stop ที่ดับเครื่องยนต์ทุกครั้งโดยอัตโนมัติเวลาติดไฟแดง แต่ระบบไฟทุกอย่างยังทำงานตามปกติ น่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ผู้ใช้งานหลายคนเข้าขั้นเกลียด ในระดับที่ต้องปิดทุกครั้งที่สตาร์ทเครื่องยนต์ หรือไปถอดระบบถาวรกันเลยทีเดียว ล่าสุด หน่วยงานปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่าง EPA หรือ Environmental Protection Agency ได้แสดงความคิดเห็นผ่านโลกออนไลน์ ในเชิงที่ว่าพวกเขากำลังหาทางแก้กันอยู่

Lee Zeldin หัวหน้าของ EPA ได้โพสต์ข้อความผ่าน X ว่า ‘ระบบ Start/Stop คือการทำให้รถยนต์ของคุณตายทุกครั้งที่ติดไฟแดง ส่วนบริษัทผู้ผลิตได้รับรางวัลเรื่องช่วยลดโลกร้อน ซึ่ง EPA เป็นผู้ให้การอนุมัติ แล้วทุกคนก็เกลียดสิ่งนี้ เราจึงอยู่ระหว่างหาทางแก้ไข’ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าการแก้ไขที่กล่าวถึงนั้น จะมาในลักษณะใด และจะใช่การยกเลิกไปเลยหรือไม่

 

สำหรับความเป็นมาของระบบ Idling Stop นั้นถือกำเนิดในยุค 1970s กันเลย ก่อนจะมีผู้หันมาใช้งานในยุค 1980s แต่จุดเปลี่ยนอยู่ในช่วงยุค 2000s ที่ผู้ผลิตรถยนต์พากันติดตั้งมาในรถยนต์ใหม่ โดยในสหรัฐฯ นั้นแม้ว่า EPA จะไม่เคยออกกฎให้ผู้ผลิตรถยนต์ ต้องติดตั้งเทคโนโลยีนี้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ผู้ผลิตที่ใส่มาให้ด้วยจะได้รับ Carbon Credits ในยุคที่ Obama ยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ระบบจึงแพร่หลายนั่นเอง

ปัจจุบัน มีการประมาณการว่า 65% ของรถยนต์ใหม่ที่ออกจำหน่ายในสหรัฐฯ มาพร้อมกับระบบ Idling Stop สำหรับสาเหตุที่มีการคิดค้นเทคโนโลยี เพราะข้อมูลจากสถิติบ่งชี้ว่าในย่านที่มีการจราจรติดขัด มักจะมีค่ามลพิษทางอากาศสูงสุด หรือในช่วงรอบเดินเบาเป็นช่วงที่มีการสร้างมลพิษ nitrogen dioxide จากเครื่องยนต์สูงนั่นเอง และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย ซึ่งในทางทฤษฎีนั้นฟังดูดี แต่ในแง่ใช้งานจริง กลับไม่ค่อยมีผู้ใช้งานปลาบปลื้มเท่าใดนัก

 

ที่มา: motor1, carmagazine