
เดิมทีสหภาพยุโรปเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าในอัตรา 10% ก่อนที่จะเริ่มเก็บภาษีเพิ่ม สำหรับรถยนต์นำเข้าจากจีนในเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งเพิ่มจากอัตราเดิมในสัดส่วนที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ โดยประเมินจากความร่วมมือในการให้ข้อมูลสืบสวน ในประเด็นที่ EU เคลือบแคลงสงสัยว่าผู้ผลิตรถยนต์จีน ได้รับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ โดย BYD ถูกเก็บเพิ่มในอัตรา 17.0%, Geely ถูกเก็บเพิ่มอีก 18.8% และ SAIC ถูกเก็บเพิ่ม 35.3% แต่นั่นอาจเปลี่ยนไปในอนาคต หลังมีรายงานว่าภาครัฐของทั้งสองฝั่ง อาจกำลังเจรจาประเด็นดังกล่าวกันอยู่
reuters ได้รายงานว่า Maros Sefcovic ตำแหน่ง Trade Commissioner ของสหภาพยุโรป ได้มีการเจรจากับ Wang Wentao รัฐมนตรีกระทรวงการค้าของจีนในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถึงประเด็นกำแพงภาษีรถยนต์นำเข้าจากจีน และมีความเห็นตรงกันว่าจะปรับเปลี่ยนโยบายดังกล่าว ไปเป็นการตั้งเกณฑ์ราคาจำหน่ายขั้นต่ำแทน ซึ่งเดิมทีมีการใช้นโยบายนี้อยู่แล้วกับ สินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นที่มีคุณสมบัติร่วมกัน แต่ยังไม่เคยนำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ ที่มีความซับซ้อนอย่างรถยนต์มาก่อน

Sefcovic ยังเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า การตั้งเกณฑ์ราคาจำหน่ายขั้นต่ำ จะต้องมีประสิทธิภาพและมีผลบังคับใช้ได้เช่นเดียวกับกำแพงภาษีของ EU ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลใดหรือการยืนยันจากทางการถึงประเด็นดังกล่าว แต่รายงานชิ้นนี้ยังดูมีน้ำหนัก เนื่องจากสหภาพยุโรปเคยเปิดเผยว่ายินดีที่จะเจรจากับทางจีน เพื่อหาทางออกร่วมกันในเรื่องของกำแพงภาษีสกัดรถยนต์นำเขาจากจีน
ด้านสมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ของเยอรมนีหรือ VDA ยังได้แสดงท่าทีเห็นด้วยกับประเด็นการเจรจากับทางจีน พร้อมกับระบุว่า ‘ไม่ว่าสถานการณ์ของโลกในตอนนี้จะเป็นอย่างไร แต่มีความจำเป็นที่จะต้องเจราจาร่วมกัน เพื่อลดอุปสรรคและข้อขัดแย้งในการค้าขายระหว่างประเทศ มากกว่าการสร้างปัญหาใหม่’ ประเด็นนี้จึงเป็นที่น่าติดตามต่อไปว่า ราคาขายขั้นต่ำจะอยู่ที่ไหนและถ้ามีผลบังคับใช้จริง จะได้ผลหรือไม่