ในขณะที่สหภาพยุโรปอยู่ในขั้นตอนของการเสนอร่าง Euro 7 ซึ่งจะเพิ่มความเข้มข้นของการควบคุม อัตราการปล่อยมลพิษจากรถยนต์อีกระดับ กลับมีรายงานว่า 8 สมาชิกประเทศ EU ได้ร่วมลงนามส่งหนังสือหาสมาชิกกลุ่ม เพื่อแสดงเจตจำนงค์คัดค้านร่าง Euro 7 ด้วยการให้เหตุผลว่ากฎนั้นเข้มงวดเกินไป จนผู้ผลิตรถยนต์อาจทำไม่ได้

มีรายงานว่า 8 ประเทศสมาชิก EU ที่ร่วมลงนามคัดค้านร่าง Euro 7 ประกอบด้วย ฝรั่งเศส, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก, บัลแกเรีย, ฮังการี, โปแลนด์, โรมาเนีย และสโลวาเกีย ซึ่งจำนวนดังกล่าวเกือบถึง 1 ใน 3 ของสหภาพยุโรปที่มีสมาชิกทั้งหมด 27 ประเทศ และมากพอที่จะขวางมติได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการคัดค้านมติที่จะยกเลิกการจำหน่ายรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั้งหมดในยุโรป ในปี 2035

 

กลับมาที่ประเด็น Euro 7 ซึ่งได้รับคำวิจารณ์เชิงลบค่อนข้างมาก เพราะมีการวิเคราะห์ว่าเป็นการบีบ ให้ผู้ผลิตรถยนต์นำงบประมาณที่ควรนำไปใช้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง EV เพื่อมาใช้ในการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในให้ผ่านเกณฑ์ Euro 7 จะได้ออกขายได้ในยุโรปไปได้อีกไม่กี่ปีจนถึงปี 2035 นอกจากนั้น ยังมีผลข้างเคียงต่อราคาจำหน่ายรถยนต์เหล่านี้อาจพุ่งสูงขึ้น จนมีผลกระทบถึงผู้บริโภคด้วย

ด้านบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในยุโรปก็เปิดหน้าแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกัน อย่าง Skoda จากเช็กเตือนไว้ว่าถ้า Euro 7 มีผลบังคับใช้ อาจทำให้บริษัทจำเป็นต้องปลดพนักงานจำนวน 3,000 คน ส่วน CEO ของ Stellantis อย่าง Carlos Tavares ถึงกับวิจารณ์ว่า Euro 7 นั้นไร้ประโยชน์เพราะแทบจะไม่ได้ช่วยลดมลพิษเลย ซ้ำจะส่งผลกระทบด้านลบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์เสียอีก

 

ที่มา: reuters, motor1


อ่านรายละเอียดบางส่วนของร่าง Euro 7 ได้ที่

>> https://www.headlightmag.com/news-proposa-of-euro-7-may-lead-to-end-of-ice-new-car/