ในไตรมาสแรกของปี Ford สหรัฐฯ ได้ขาดทุนก่อนหักกำไรและภาษีมูลค่า 632 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (ราว 20,000 ล้านบาท) โดยในช่วงท้ายของไตรมาสเป็นช่วงที่เริ่มเกิดวิกฤต COVID-19 ทำให้ตลาดซบเซายาวจนบริษัทมองว่าตอนปิดไตรมาสที่สอง Ford อาจขาดทุนจากการดำเนินงานหรือ Operating Loss คิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้าน USD (ราว 162,000 ล้านบาท)

Tim Stone ผู้ดำรงตำแหน่ง CFO ของ Ford เป็นผู้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ทั้งยังกล่าวด้วยว่าหากไม่มีการระบาดของ COVID-19 บริษัทอาจมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้าน USD (ราว 45,000 ล้านบาท) ทั้งนี้ เขามองว่าบริษัทยังไม่อยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากมีเงินสดสำรองมูลค่า 35,000 ล้าน USD (ราว 1,136,000 ล้านบาท) ซึ่งมากพอที่จะให้บริษัทอยู่ได้จนถึงสิ้นปี แม้ไม่มียอดขาย wholesales และการปรับตัวทางการเงิน

สำหรับ Operating Loss ข้างต้นสามารถคิดเป็นการขาดทุนสุทธิ (net loss) มูลค่า 2,000 ล้าน USD (ราว 64,000 ล้านบาท) ส่วนมาตรการที่ Ford ใช้รับมือวิกฤตในครั้งนี้ มีทั้งลดเงินเดือนผู้บริหารรวมถึงพนักงานออฟฟิศ ส่วนแผนการพัฒนารถยนต์ใหม่มีทั้งเลื่อนออกไปอย่าง รถยนต์เชิงพาณิชย์ขับขี่อัตโนมัติ หรือยกเลิกกันเลยอย่าง project พัฒนา Lincoln ในตัวถัง SUV หรูร่วมกับ Rivian ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV

 

ที่มา: carscoops, paultan