เดิมที Haval Raptor มีขุมพลัง PHEV ให้เลือกเพียงอย่างเดียว แต่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2025 ได้มีการเสริมทัพด้วยการเปิดตัวรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปล้วน โดยมาพร้อมกับ 5 ทางเลือกสีตัวถังทั้ง สีขาว Moon White, สีเทา Ink Jiangnan Gray, สีเขียว Moss Rock Green, สีดำ Black Tortoise และ สีเทา Cloud Stream Gray ส่วนมิติตัวถังมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,800 (4,680 ในรุ่นที่ไม่มียางอะไหล่) x 1,950 x 1,843 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,738 มิลลิเมตร
  • จุดต่ำสุดของรถจากพื้น: 223 มิลลิเมตร

Haval Raptor รุ่นเครื่องยนต์สันดาป เปลี่ยนไปใช้กระจังหน้าแบบใหม่แนวตั้ง รับกับไฟหน้าทรงเหลี่ยม ส่วนไฟท้ายประกอบด้วยไฟ LED แบบ 628 nm จำนวน 300 จุด ล้อมีทั้งขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง 245/60 และ 19 นิ้ว รัดด้วยยาง 255/60 ท้ายรถสามารถเพิ่มที่เก็บของภายนอกขนาด 2.7 ลิตร ห้องโดยสารเพิ่มพวงมาลัยท้ายตัด ระบบแสดงผล ส่วนมาตรวัดมีขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Coffee OS 3.0 และเครื่องเสียง 10 ลำโพง คอลโซลเกียร์ปรับใหม่เปลี่ยนด้ามเกียร์เป็นปุ่ม

 

ขุมพลังของ Haval Raptor รุ่นเครื่องยนต์สันดาปเป็น เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 235 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ DCT แบบคลัชต์เปียก 9 จังหวะ เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 8.1 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 11.56 กิโลเมตร/ลิตร ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้ 9 แบบ ส่วนความสามารถในการลุย ทำมุมไต่ได้ 25 องศา และ ทำมุมจาก 32 องศา ลุยน้ำได้ลึกสุด 580 มิลลิเมตร

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Haval Raptor เป็นระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติระดับที่ 2 ซึ่งรวมถึง ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ, ระบบจดจำป้ายจราจร และ ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ส่วนกำหนดการออกจำหน่ายที่จีนเริ่มขึ้นแล้วโดยมีให้เลือกสองรุ่นย่อย คือ Pro และ Ultra โดยเสนอส่วนลดให้รุ่นละ 10,000 หยวน (ราว 45,000 บาท) จำนวนจำกัดในช่วงแรก ก่อนจะกลับไปขายที่ราคาเต็มระหว่าง 156,900 – 166,900 หยวน (ราว 712,000  – 758,000 บาท)

 

ที่มา: autohome, carnewschina