Honda CR-V มีรุ่นปี 2026 ตามมาสมทบแล้วในสหรัฐฯ เพื่อสานต่อตำนานรถยนต์ CUV ที่ขายดีที่สุดที่นั่นเป็นเวลา 28 ปีติดต่อกัน โดยเปิดตัวเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2025 และพร้อมออกจำหน่ายทันที ส่วนความเปลี่ยนแปลงคือการปรับอุปกรณ์ และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ TrailSport Hybrid ซึ่งมาพร้อมกับสีเขียวเฉพาะรุ่น Ash Green Pearl ทั้งยังตกแต่งพิเศษอีกหลายรายการ รวมถึงชายกันชนหน้าหลังดีไซน์พิเศษ ตัดด้วยสีเงิน

Honda CR-V TrailSport Hybrid ยังมีสปอยเลอร์หลังคาสีดำ Piano Black พร้อมใช้สีดำตัดมือเปิดประตูนอกและกรอบประตู ที่ฝาท้ายและกระจังหน้ามีโลโก้ชื่อรุ่นสีส้ม ล้อมาในสีเทา Shark Gray เฉพาะรุ่นขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยาง Continental CrossContact ATR ขนาด 235/60 ภายในมีเบาะคู่หน้าปักชื่อรุ่น พร้อมเพิ่มพรมปูพื้นเฉพาะรุ่น และไฟ Ambient Lighting รอบคัน อุปกรณ์มาตรฐานอื่นมีทั้ง ระบบอุ่นเบาะ – พวงมาลัย, ฝาท้ายไฟฟ้า, หลังคา moonroof และ เครื่องเสียง 8 ลำโพง

 

สำหรับ Honda CR-V รุ่นปี 2026 รุ่นย่อยอื่น ภายนอกเปลี่ยนล้อลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ห้องโดยสารเปลี่ยนไปใช้หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมแท่นชาร์จไร้สายในทุกรุ่นย่อย ส่วนรุ่นย่อยระดับบน เพิ่มมาตรวัดดิจิตอลขนาด 10.2 นิ้ว ในรุ่น Sport Touring Hybrid เพิ่มรูปแบบการขับขี่ Individual ให้ผู้ใช้งานปรับแต่งเองตามใจชอบ รวมถึงการตอบสนองของคันเร่งและพวงมาลัย

ขุมพลังของ Honda CR-V รุ่นปี 2026 คงเดิม โดยมีให้เลือกสองแบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • 1.5T

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1,498 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73 x 89.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.6 : 1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 242 นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า หรือ ขับเคลื่อนสี่ล้อ

 

  • 2.0 Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ Atkinson ขนาด 1,993 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 81 x 96.7 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.9 : 1 กำลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุดรวม 181 แรงม้า ที่ 5,000 – 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 334 นิวตันเมตร ที่ 0 – 2,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า หรือ ขับเคลื่อนสี่ล้อ

ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ยังเพิ่มระบบจัดการการยึดเกาะถนน Traction Management ในขณะที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า 14 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใน Honda CR-V รุ่นปี 2026 มีแพคเกจ Honda Sensing ปิดท้ายด้วยการผลิตซึ่งมีขึ้นจากโรงงานใน Indiana Auto Plant สหรัฐฯ สำหรับราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย แบ่งตามขุมพลังได้ดังนี้

  • ขุมพลัง 1.5T มี 6 รุ่นย่อย ราคา 30,920 – 36,900 USD (ราว 1,011,000 – 1,206,000 บาท)
  • ขุมพลัง 2.0 Hybrid มี 6 รุ่นย่อย ราคา 35,630 – 42,250 USD (ราว 1,165,000 – 1,381,000 บาท)

 

ที่มา: Honda