Wall Street Journal ได้รายงานว่าในขณะนี้ หน่วยงานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐฯ NHTSA กำลังสืบสวนอุบัติเหตุ 16 เคสที่เกิดขึ้นระหว่างรถฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่และ Tesla ที่มีระบบ Autopilot โดยหนึ่งในนั้นเป็นกรณีของ 2019 Tesla Model X ที่ชนเข้ากับรถตำรวจซึ่งจอดปฏิบัติหน้าที่บนทางหลวงใน Texas สหรัฐฯ แม้จะเปิดสัญญาณไซเรนชัดเจน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาย และพลเรือน 1 รายบาดเจ็บ

 

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2021 เมื่อผู้ขับขี่รายหนึ่งออกเดินทางมากับ 2019 Tesla Model X จนมาประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับรถตำรวจ ที่จอดเรียกตรวจรถยนต์อีกคันอยู่ในเวลา 1.13 นาฬิกา จากการสืบสวนพบว่าผู้ขับขี่ Tesla อยู่ในสภาวะมึนเมา (ไม่ได้ระบุว่ายาหรือสุรา) ที่น่าตกใจกว่านั้นคือตลอดระยะเวลาเกือบ 45 นาทีที่เขาขับขี่มา ระบบ autopilot แจ้งเตือนให้เขาจับพวงมาลัยถึง 150 ครั้ง

ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จากประวัติการขับขี่ยังเผยว่าระบบ autopilot ใน 2019 Tesla Model X ตรวจพบว่าผู้ขับขี่ไม่เอามือจับพวงมาลัย จึงส่งข้อความเตือนให้จับพวงมาลัย และทำซ้ำวนอยู่เช่นนั้นเป็นร้อยครั้ง สำหรับการตอบสนองของระบบขับขี่อัตโนมัติ ต่อรถยนต์คันอื่นบนเส้นทางเดียวกัน พบว่าระบบตรวจจับได้ปกติ แต่กลับไม่สามารถตรวจจับรถตำรวจ ที่เปิดไซเรนและจอดขวางอยู่บนเส้นทางได้

 

ข้อมูลในระบบ autopilot ระบุว่าเดิมทีผู้ขับขี่ตั้งความเร็วไว้ที่ 64 ไมล์/ชั่วโมง (102 กิโลเมตร/ชั่วโมง) จนถึงที่เกิดเหตุที่มีกลุ่มรถตำรวจจอดอยู่ แต่ทั้งระบบและผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง จนกระทั่ง 37 ยาร์ด (33 เมตร) หรือ 2.5 วินาทีก่อนชน ที่ระบบตรวจเจอรถตำรวจและพยายามลดความเร็วเหลือ 54 ไมล์/ชั่วโมง (87 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ก่อนจะปิดระบบ autopilot เองในวินาทีสุดท้าย เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมแทน ซึ่งแน่นอนว่าคนขับไม่ได้ทำอะไรเลย

จากข้อมูลทั้งหมดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 5 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุดังกล่าว จึงรวมตัวกันฟ้อง Tesla พร้อมระบุว่าเหตุเกิดจาก autopilot ที่ติดตั้งใน Model X รุ่นปี 2019 ไม่ตัดการทำงานของระบบ เมื่อตรวจพบว่าผู้ขับขี่ไม่สนใจจับพวงมาลัยซ้ำๆ เป็นร้อยครั้ง อีกทั้งยังไม่สามารถตรวจจับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่มีไฟไซเรนด้วย ส่วน Tesla ระบุเพียงแค่ว่าเป็นความผิดคนขับ ซึ่งเราคงได้แต่รอฟังคำตัดสินจากศาลต่อไป

 

ที่มา: autoblog, carscoops