กลุ่ม Jaguar-Land Rover ดูพร้อมจะถอยจากตลาดจีนเพื่อมาตั้งหลักก่อน หลังจากในปีงบประมาณที่ผ่านมา บริษัทร่วมทุนกับ Chery ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อผลิตและจำหน่าย Jaguar รวมถึง Land Rover ในประเทศจีน ได้ขาดทุนเป็นมูลค่าถึง 18.7 ล้าน USD (ราว 620 ล้านบาท) นำไปสู่รายงานที่ว่า มีการตัดสินใจเตรียมยุติการผลิตรถยนต์ที่นั่น แต่ไม่ใช่การถอยทัพอย่างถาวร เพราะจะมีการตั้งแบรนด์ใหม่ เพื่อทำตลาดที่จีนโดยเฉพาะ

มีรายงานว่ากลุ่ม JLR เตรียมยุติการผลิต Jaguar XE, XF และ E-Pace จากโรงงานร่วมทุนกับ Chery ในจีน ภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วน Range Rover Evoque และ Land Rover Discovery Sport ซึ่งผลิตขึ้นที่จีนเช่นกัน จะยุติการผลิตในช่วงปลายปีหน้า หลังจากนั้น จะมีการทำแบรนด์ใหม่ Freelander มาทำตลาดที่นั่นโดยเฉพาะ ด้วยการนำงานวิศวกรรม T1X จาก Chery ที่ JLR มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมื่อปี 2016 มาเป็นโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์แบรนด์ใหม่นี้

 

รายงานยังระบุด้วยว่า Freelander รุ่นแรกที่จะกลับมาทำตลาดในจีน จะขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV ส่วนงานดีไซน์นั้นรับผิดชอบโดย JLR และยังมีการอธิบายเสริมจาก Richard Molyneux ตำแหน่ง CFO ของ JLR ด้วยว่า Freelander ไม่ได้เพียงแต่สร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมของชาวจีน แต่ยังมีรากเหง้าความเป็นจีนและต้นทุนแบบจีน จนเหมาะสมอย่างไร้ที่ติสำหรับการทำตลาดที่นั่น ทั้งนี้ CFO รายเดิมยังเคยเกริ่นไว้ว่า แบรนด์นี้มีศักยภาพที่จะทำตลาดระดับโลกด้วย

มีการคาดการณ์ว่า JLR จะยังคงนำเข้า Range Rover และ Defender เพื่อนำมาจำหน่ายคู่กับรถยนต์แบรนด์ Defender ในจีนต่อไป เพราะรถยนต์นำเข้าราคาสูงนั้นมีตลาดเฉพาะ และได้รับผลกระทบน้อยกว่า จากสงครามราคาของผู้ผลิตท้องถิ่น ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับ Audi ที่เปิดตัวแบรนด์ AUDI เพื่อทำตลาดจีนโดยเฉพาะ แต่ยังมี Audi ที่เป็นรุ่น Global Model ทำตลาดด้วยเช่นกัน แต่ยังเหลือให้ติดตามว่าแบรนด์ใหม่อย่าง Freelander จะส่งผลิตภัณฑ์แบบใดมาเอาใจชาวจีน และจะมีโอกาสบุกตลาดอื่นด้วยหรือไม่

 

ที่มา: carscoops