Jaguar Land Rover North America ตกเป็นจำเลยในสหรัฐฯ หลังมีลูกค้ารายหนึ่งจาก California ยื่นฟ้องบริษัท เนื่องจากเธอได้ซื้อ Jaguar I-PACE ป้ายแดงในเดือนกรกฎาคม 2019 แต่กลับเจอปัญหาไม่หยุดหย่อน แม้จะแก้ไขมาแล้วหลายรอบ โดยปัญหาครั้งแรกเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งตอนนั้นมีข้อความแจ้งเตือนเธอว่า แบตเตอรี่ล้มเหลวจนต้องยกรถยนต์ไปเข้ารับการแก้ไขที่ศูนย์

ต่อมา ในเดือนเมษายนของปีนี้ Jaguar I-PACE ของเธอดับกลางถนนอีกครั้ง โดยครั้งนี้เธอตกใจมาก เพราะรถมาจอดตายขวางทางออกผู้อื่น ซึ่งในครั้งนี้เธอได้รับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ และในเดือนพฤษภาคม 2023 ก็มีการประกาศจากทางการ recall รถยนต์เข้ารับการแก้ไข เนื่องจากเสี่ยงที่จะมีความร้อนสูงจนเกิดเพลิงลุกไหม้ โดยการแก้ไขจะมีทั้งการ update software หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ตามความเหมาะสม

 

ทางการระบุด้วยว่าผู้ใช้งาน Jaguar I-PACE ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ควรจำกัดการชาร์จไฟไว้ที่ระดับ 75% เท่านั้น ทั้งหมดนี้ทำให้โจทก์ไม่พึงพอใจ เพราะมองว่าบริษัททราบดีอยู่แล้วเรื่องรถมีปัญหา แต่กลับไม่เร่งแก้ไข ทั้งยังจำหน่ายรถยนต์ต่อไป และข่าวการเกิดปัญหาที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าของ Jaguar I-PACE ที่ลูกค้าซื้อไปแล้ว ร่วงลงไปอย่างมาก

Insideevs ตั้งข้อสงสัยว่า Jaguar I-PACE ใช้แบตเตอรี่ของ LG Energy Solution แหล่งเดียวกับที่ Chevrolet Bolt และ Hyundai Kona Electric เลือกใช้ ซึ่งทั้งสองรุ่นเจอปัญหา EV ไฟไหม้ทั้งคู่ หลายฝ่ายเลยพุ่งเป้าไปที่แบตเตอรี่ของ LG ว่าเป็นต้นเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งบริษัทได้ออกมาปฏิเสธ แต่ยินยอมชดใช้ให้กับ GM มูลค่า 1,900 ล้าน USD (ราว 66,000 ล้านบาท) และ Hyundai มูลค่า 623 ล้าน USD (ราว 21,000 ล้านบาท) เพื่อให้ทั้งสองบริษัทนำไปใช้ในการ recall รถยนต์ให้กับลูกค้า แต่กับ JLR จะเป็นอย่างไรนั้น ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตาม

 

ที่มา: carcomplaints, insideevs