Leapmotor บริษัท EV จีนที่ได้รับการสนับสนุนโดย Stellantis ประสบความสำเร็จไม่น้อยกับ B10 ตัวถัง SUV ซึ่งมียอดส่งมอบจากโรงงานทะลุ 8,000 คัน หลังการเปิดตัวเพียง 13 วัน และบริษัทไม่รอช้าที่จะส่ง Sedan อีกรุ่นมาเสริมทัพในชื่อ Leapmotor B01 ที่งาน Auto Shanghai 2025 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2025 ซึ่งหลายฝ่ายจับตามองว่ามีศักยภาพที่จะเป็น ผู้เล่นรายสำคัญในรถยนต์ระดับเดียวกัน ส่วนรายละเอียดมิติตัวถังมีดังต่อไปนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,770 x 1,880 x 1,490 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,735 มิลลิเมตร

 

Leapmotor B01 ได้รับการนิยามว่าเป็น Sedan อัจฉริยะที่มีรูปทรงงดงามที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ด้วยสัดส่วนท้ายลาดแบบ Fastback ทำมุม 17.2 องศา ทั้งยังลู่ลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.197 Cd ไฟหน้าและไฟท้ายยังคงอัตลักษณ์ประจำค่าย กับแถบเชื่อมต่อกันตลอดแนว พร้อมแถบไฟ LED แบบเล่นระดับ ชายล่างตัวถังและกระจกมองข้างตัดสีตัวถังด้วยสีดำ สีตัวถังมีให้เลือก 8 สีรวมถึงสีขมพู Morgan Pink ที่มีการเติมแมงกานีสลงไปด้วย เพื่อให้เล่นกับแสง ส่วนล้อมีขนาด 18 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 225/45

ห้องโดยสารของ Leapmotor B01 มีมาตรวัดขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง 2.5K ขนาด 14.6 นิ้ว เบาะคู่หน้าเป่าลมอุ่นเย็นได้ พร้อมระบบอุ่นพวงมาลัย ส่วนประโยชน์ใช้สอยมีค่าประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ 86% มาพร้อมกับเบาะหลังพับได้แบบ 40:60 และปรับเอนได้ 28 องศา ทั้งยังมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระหลังเบาะ 460 ลิตร และเพิ่มได้อีก 70 ลิตร เมื่อเอาแผ่นปูพื้นท้ายรถออก ส่วนโทนสีมีทั้งสีม่วงและสีเทา ด้านการตกแต่งยังบุนุ่มครอบคลุมพื้นที่กว่า 88%

 

Leapmotor B01 สร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมแบบ LEAP 3.5 ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Stellantis มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง สองระดับความแรง กำลังสูงสุด 179 และ 218 แรงม้า ขับขี่ได้ไกลสุดเป็นระยะทาง 650 กิโลเมตร (CLTC) ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ McPherson Strut ด้านหลังเป็นแบบ Multi-Link ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ LiDAR บนหลังคา และชิพแบบ Qualcomm 8650

Leapmotor B01 จะเริ่มการผลิตในเดือนกรกฏาคม ส่วนราคาจำหน่ายทางการระบุแค่ว่า จะอยู่ในระดับ 150,000 หยวน (ราว 677,000 บาท) อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่าราคาเริ่มต้นอาจอยู่ในระดับ 99,800 หยวน (ราว 450,000 บาท) หรือต่ำถึงระดับ 88,800 หยวน (ราว 401,000 บาท) กันเลย ซึ่งถ้าราคาออกที่ระดับนี้จริง คาดว่าจะสร้างความกดดันให้กับคู่แข่งในระดับเดียวกันไม่น้อย

 

ที่มา: carnewschina, autohome