Lotus Cars พึ่งประกาศปลดพนักงานไป 94 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามมาด้วยการยอมรับกับสื่อว่า มีความเสี่ยงที่บริษัทจะต้องปลดพนักงานเพิ่มเติม เพราะประสบปัญหากำไรถดถอย แม้ยอดขายจะเพิ่มขึ้นก็ตามที จนในที่สุด มีการประกาศเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า Lotus Cars เตรียมปลดพนักงานเป็นจำนวน 270 คน จากสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตรถยนต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ Hethel ของอังกฤษ

ใจความของแถลงการณ์จาก Lotus Cars ระบุว่าบริษัทได้ประกาศแผนการปรับโครงสร้าง เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถปฏิบัติงานได้ต่อไป ภายใต้สภาวะตลาดซึ่งเต็มไปด้วยความผันผวน และมีเงื่อนไขปรับเปลี่ยนไปตลอดเวลา รวมไปถึงกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และความต้องการรถสปอร์ตจากตลาดที่เปลี่ยนไปจากเดิม นำไปสู่การวางแผนในการทำงานร่วมกับแบรนด์ Lotus ในขอบเขตงานที่กว้างขึ้น

 

นอกจากนั้น Lotus Cars จะเพิ่มการร่วมมือกับคู่ค้าด้านเทคโนโลยีและผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง Geely Holding Group โดยจะมีการแชร์ทรัพยากรและความร่วมมือทางเทคโนโลยี, งานวิศวกรรม และการปฏิบัติการให้มากขึ้นกว่าเคย ทั้งยังมีการย้ำด้วยว่าจะยังคงให้ความสำคัญกับอังกฤษเช่นเดิม เพราะถือเป็นบ้านของ Lotus ที่ใช้ในการออกแบบและผลิตรถยนต์ ส่วนแผนการปรับโครงสร้างมีขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน

มีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ทำให้ Lotus Cars ประสบปัญหาฝืดเคืองนั้น มีสองปัจจัยหลักด้วยกัน โดยอย่างแรกคือ EV สปอร์ตสองรุ่นของค่ายอย่าง Electre และ Emeya ซึ่งขนาดตลาดของรถยนต์กลุ่มนี้ได้หดตัวลง ประกอบกับความน่าสนใจของ EV สองรุ่นนี้ถือว่าไม่น่าเตะตาเท่าใดนัก ทำให้ลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อมีจำนวนน้อยลงไปอีก ส่วนอีกปัจจัยคือกำแพงภาษีของสหรัฐฯ เนื่องจากอเมริกันเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ของ Lotus Cars แล้วรถยนต์ที่นำไปจำหน่ายที่นั่น กลับมีที่มาจากจีนซึ่งล่าสุดจะถูกเพิ่มภาษีพิเศษในอัตรา 145%

 

ที่มา: bbc, motor1