เดิมที Lotus Cars ได้ประกาศว่าจะก้าวสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวในปี 2028 แต่ด้วยสถานการณ์การตลาดที่พลิกผัน โดยเฉพาะในตลาดจีนซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ของ EV จน Lotus ยอมรับกับนักลงทุนในเดือนตุลาคม 2023 ว่า ‘หากตลาดรถยนต์หรูขุมพลังไฟฟ้า ไม่เติบโตไปอย่างที่เราคาดหวัง จะส่งผลให้ธุรกิจของเรา รวมถึงลูกค้าเป้าหมาย, สภาวะทางการเงิน และผลประกอบการ ได้รับผลกระทบตามไปด้วย‘

 

ในปีถัดมา สถานการณ์ยอดขาย EV หรูในจีนไม่มีท่าทีจะดีขึ้น ทั้งยังลดลงถึง 50% โดยนี่เป็นตัวเลขที่ Feng Qingfeng ตำแหน่ง CEO ยอมรับกับนักลงทุนในการประชุมผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2024 จสในที่สุด เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Lotus Cars ได้ฉีกแผนที่จะเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวในปี 2028 พร้อมกันนั้น ยังประกาศเตรียมเปิดตัวรถยนต์ที่มีเทคโนโลยี Hyper Hybrid ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป โดยนำเครื่องยนต์พ่วงเทอร์โบมาใช้เป็น Range Extender พร้อมกับต่ออายุการทำตลาด Emira เครื่องยนต์สันดาป

Dan Balmer ตำแหน่ง CEO ของ Lotus Cars ยุโรป ให้สัมภาษณ์ว่า ‘หากบริษัทยังมุ่งใช้แผนการเดิม (ในการเป็นแบรนด์ EV ในปี 2028) นั่นจะไม่เหมาะกับการทำตลาดในทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องกำแพงภาษี’ นอกจากนั้น Lotus ยังเลื่อนเปิดตัวสปอร์ต EV ที่มีรหัสภายในว่า Type 135 ออกไป พร้อมชะลอการเปิดตัว SUV ขุมพลังไฟฟ้า พิกัดเดียวกับ Porsche Macan Electric รหัส Type 134 ซึ่งเดิมทีมีกำหนดการในปี 2025 โดย Balmer ระบุว่า ‘เราจะโอกาสในการศึกษาตลาดอีกครั้ง เพื่อประเมินสถานการณ์การต่อไป’

 

สำหรับเทคโนโลยี Hyper Hybrid ที่ Lotus Cars เตรียมไว้นั้น สามารถนำมาติดตั้งกับงานวิศวกรรม Electric Premium Architecture ซึ่งอยู่ใน Electre และ Emeya ทำให้ขับขี่ได้ไกลสุดเป็นระยะทางกว่า 1,100 กิโลเมตร นอกจากนั้น จะมีเทคโนโลยี Dual Hyper Charging ที่สามารถชาร์จไฟขณะขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ EV สมรรถนะสูงดำเนินไปอย่างไม่มีสะดุด ส่วนการชาร์จไฟเป็นแบบ ‘Flash Charging’ สามารถชาร์จไฟจาก 10 – 80% ใน 10 นาที หรือเทียบเท่ากับการเปลี่ยนแบตเตอรี่เลย

เทคโนโลยี Hyper Hybrid ยังเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้าที่มีแรงดัน 900 โวลต์ สูงกว่าของ Electre และ Emeya ในปัจจุบันที่มีแรงดัน 800 โวลต์ ส่วนเครื่องยนต์ที่นำมาจับคู่ด้วย จะไม่ใช่เครื่องยนต์ 4 สูบ จาก AMG ที่ใช้อยู่ แต่ยังไม่มีการระบุว่านำมาจากที่ใด ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าอาจมาจาก Horse ซึ่งบริษัทร่วมทุนของ Geely และ Renault เพื่อผลิตเครื่องยนต์โดยเฉพาะ หลังจากนี้ คงต้องติดตามกันต่อว่าการเปลี่ยนแผนกลับมาใช้เครื่องยนต์สันดาปพ่วงระบบ EV จะช่วยขับเคลื่อน Lotus Cars ออกจากปัญหาที่เจออยู่หรือไม่

 

ที่มา: carmagazine