สถานการณ์ของ Lotus Cars ยังไม่ดีขึ้นเท่าใดนัก โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้จำเป็นที่จะต้องปลดพนักงาน ในโรงงานผลิตรถยนต์ซึ่งตั้งอยู่ใน Hethel อังกฤษเป็นจำนวน 270 คน แต่นั่นดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอต่อการลดรายจ่าย เพราะล่าสุด Lotus Cars ได้ประกาศปลดพนักงานในอังกฤษเพิ่มอีก 550 คน จากพนักงานที่มีอยู่ราว 1,300 คน หรือเทียบเท่ากว่า 40% ของพนักงานในองค์กรเลยทีเดียว โดยครอบคลุมทั้งงานในส่วนสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตรถยนต์
Lotus Cars ให้เหตุผลว่าการปลดพนักงานในครั้งนี้ เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของนโยบายหลักในโลกอย่างรวดเร็ว รวมถึงกำแพงภาษีของสหรัฐฯ โดยบริษัทฯ จะพยายามรักษาอนาคตที่ยั่งยืนเอาไว้ต่อไป ภายใต้สภาวะการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีอย่างรวดเร็วเช่นนี้ นอกจากนั้น Lotus Cars ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดโรงงานผลิตรถยนต์ใน Hethel ตามที่ปรากฎในข่าวลือ พร้อมให้คำมั่นกับอังกฤษว่าจะใช้เป็นที่มั่นหลักต่อไป
Lotus Cars ระบุด้วยว่าโรงงานใน Hethel ซึ่งเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1966 จะยังคงเป็นแหล่งกำเนิดรถสปอร์ต, รถแข่ง และศูนย์ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมต่อไป พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสในการเติบโตในอนาคตด้วยการขยายรูปแบบการธุรกิจของ Lotus Cars ให้หลากหลายขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการรับผลิตให้กับบุคคลที่สาม ด้านสมาชิกสภาแรงงานได้เปรียบเทียบแถลงการณ์ของ Lotus Cars ว่า ‘ไม่ต่างอะไรจากการถูกต่อยท้องเลย แต่อย่างน้อย ยังไม่เลวร้ายถึงขึ้นยุติการดำเนินงานทั้งหมดในอังกฤษ’
กล่าวได้ว่า Lotus Cars ประสบปัญหาทางการเงินมาโดยตลอด นับตั้งแต่การจากไปของผู้ก่อตั้งอย่าง Colin Chapman ในปี 1982 ก่อนจะเปลี่ยนมือเรื่อยมาจนถึงรายล่าสุดอย่าง Geely ในปี 2017 ส่วนสถานการณ์ล่าสุดของค่ายนั้น ประสบปัญหาขาดทุนราว 280 ล้าน AUD (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) ในไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งแม้จะสูงมาก แต่ยังถือว่าดีขึ้นจากยอดขายทุนในไตรมาสแรกของปี 2024 สำหรับสัดส่วนตลาดหลักโดยประมาณของ Lotus Cars อยู่ในยุโรป 40%, จีน 25% และ สหรัฐฯ 20%
