เดิมที Lynk & Co มีรถยนต์ 4 ประตูออกขายในชื่อ Z10 ออกจำหน่ายอยู่แล้ว ซึ่งมาพร้อมกับขุมพลัง EV แต่ตอนนี้ทางการเตรียมเสริมทัพด้วย Lynk & Co 10 EM-P ที่จะขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง PHEV และมีกำหนดการเปิดตัวที่ประเทศจีน ในเดือนกันยายน 2025 เบื้องต้น มีการเผยแพร่ภาพและข้อมูลทั้งหมดมาแล้ว รวมถึงมิติตัวถังดังรายละเอียดต่อไปนี้
- ยาว x กว้าง x สูง : 5,050 x 1,966 x 1,487 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ : 3,005 มิลลิเมตร
Lynk & Co 10 EM-P ยังคงเอกลักษณ์ตัวถัง 4 ประตูท้ายลาดมาดสปอร์ต พร้อมกระจกเปลือยและมือเปิดประตูแบบเสมอตัวถัง ทั้งยังมีชายล่างตัวถังรอบคัน เข้าชุดกับดิฟฟิวเซอร์และสปอยเลอร์หลัง ล้อมีขนาด 19 หรือ 21 นิ้ว ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 6 สี ประกอบด้วย สีดำ Midnight Black, สีเทา Fluid Gray, สีม่วง Glass Purple, สีขาว Dawn White, สีเบจ Sky Cloud Beige และ สีทอง Glazed Gold สีภายในมี 4 สี อย่าง สีดำ Moon Shadow Black, สีส้ม Scarlet Orange, สีเบจ Sunlight Beige และ สีดำ/ทอง Golden Black
Lynk & Co 10 EM-P รองรับผู้โดยสาร 5 ที่นั่ง ตกแต่งพรีเมี่ยมด้วยวัสดุบุนุ่มและหนัง Nappa เบาะแถวหน้าและแถวหลังมาพร้อมระบบเป่าลมอุ่น – เย็นและระบบนวด ระบบแสดงผลมีทั้งมาตรวัด LCD ขนาด 12.66 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสกลางขนาด 15.4 นิ้ว และหน้าจอ HUD ขนาด 25.6 นิ้ว เครื่องเสียงรุ่นท็อปสุดเป็นของ Harman Kardon 23 ลำโพง กำลังขับ 1,600 วัตต์ ทั้งยังมี ไฟ Ambient Lighting เปลี่ยนสีได้ 256 สี, แท่นชาร์จไร้สายกำลังไฟ 50 วัตต์ และ ตู้คสบคุมอุณหภูมิความจุ 5.7 ลิตร
ขุมพลังของ Lynk & Co 10 EM-P เป็นแบบ PHEV ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 161 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DHT Evo 3 จังหวะ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ติดตั้งด้านหน้าและด้านหลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังสูงสุดรวม 523 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 755 นิวตันเมตร หากมีเชื้อเพลิงเต็มถัง 60 ลิตร จะขับได้ไกลสุด 1,400 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่มีสองขนาด และให้สมรรถนะแตกต่างกัน
- แบตเตอรี่ LFP ขนาด 18.4 kWh ขับด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลสุด 100 กิโลเมตร (WLTC) เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.9 วินาที
- แบตเตอรี่ LFP Shendun ขนาด 38.2 kWh ขับด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลสุด 192 กิโลเมตร (WLTC) เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Lynk & Co 10 EM-P สร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมแบบ CMA Evo Modular ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ Double Wishbone ส่วนด้านหลังเป็น Five-Link ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มี G-Pilot H7 ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ LiDAR และเซนเซอร์อื่นอีก 28 จุด สำหรับการจำหน่ายในประเทศจีนช่วง Pre-Sales เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2025 โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย และมีราคาระหว่าง 192,000 – 222,000 หยวน (ราว 867,000 – 1,002,000 บาท)
ที่มา: carnewschina, autohome
