ชาวออสเตรเลียที่สนใจเป็นเจ้าของ Mazda BT-50 และมีแผนนำไปแต่งต่อสไตล์ off-road น่าจะถูกใจกับแพคเกจ SP Pro และ Thunder Pro เสริมมาดเข้มให้กับกระบะของค่าย โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาจากรุ่นปกติสำหรับรุ่น SP Pro ประกอบด้วย กันชนหน้าเหล็ก, บาร์กระบะ, สปริงชุดใหม่สูงขึ้น 2 นิ้วจาก Nitrocharger, โช๊คอัพ twin tube, ล้อ 18 นิ้ว ลายพิเศษเฉพาะรุ่น, แถบไฟ LED แนวนอน ให้ความสว่างได้ไกลถึง 569 เมตร และกราฟฟิกคาดชายล่างประตู

สำหรับเจ้าของ Mazda BT-50 ที่ยังไม่พอใจ สามารถก้าวขึ้นไปอีกระดับกับ Thunder Pro ซึ่งสิ่งที่เปลี่ยนไปหรือเพิ่มเข้ามาอีกคือ ช่วงล่างจาก Old Man Emu BP-51 อัดแก็สไนโตรเจนเข้าระบบ รองรับการปรับระดับแรงอัดและการให้ตัวได้จากด้านนอก, โป่งล้อรอบคัน, สน็อกเกิ้ล, ไฟ LED ส่องสว่างทรงกลมคู่ติดตั้งบนกระจังหน้า ส่องแสงได้ไกลถึง 1.1 กิโลเมตร และสติกเกอร์ข้างประตู

 

ขุมพลังของ Mazda BT-50 เวอร์ชั่นออสเตรเลีย มีเครื่องยนต์ดีเซลให้เลือกสองแบบ ดังนี้

  • แบบ 4 สูบ ขนาด 1,898 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.0 x 94.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
  • แบบ 4 สูบ ขนาด 2,999 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 95.4 x 104.9 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.3 : 1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ชาวออสเตรเลียที่สนใจ ติดตั้งแพคเกจ SP Pro และ Thunder Pro กับ Mazda BT-50 สามารถสั่งซื้อพร้อมรถใหม่ หรือจะนำรถคันเดิมที่มีอยู่แล้วมาติดตั้งก็ได้ ทุกคันมาพร้อมการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ส่วนราคาจำหน่ายของชุดแต่งแต่ละแบบอยู่ที่ 7,668 AUD (ราว 180,000 บาท) ในรุ่น SP Pro และ 9,064 AUD (ราว 212,000 บาท) ในรุ่น Thunder Pro โดยบริษัทระบุว่ายกชุดถูกกว่าไปซื้อทีละชิ้น

 

ที่มา: motor1, carscoops