รถยนต์ในกลุ่ม K-Car ทุกคันที่ Mazda จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ล้วนเป็นการซื้อ K-Car ของ Suzuki มาเปลี่ยนโลโก้ใหม่ รวมถึง Mazda Carol ที่แปลงร่างมาจาก Suzuki Alto ซึ่งมีรุ่นปรับอุปกรณ์ตามมาเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2025 โดยความเปลี่ยนแปลงภายนอกคือ เพิ่มตัวถังสี two-tone ซึ่งเป็นสีฟ้า Foggy Blue Pearl Metallic ตัดกับหลังคาสีเบจ Beige ในส่วนของดีไซน์ปรับช่องกันชนหน้าหลังใหม่ และเพิ่มสปอยเลอร์หลังคา

ผลของชิ้นส่วนตัวถังใหม่ ไม่ได้มีแค่เรื่องของหน้าตาเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย โดยในรุ่นที่ใช้ขุมพลัง Hybrid ทำตัวเลขได้ดีขึ้นเป็น 28.2 กิโลเมตร/ลิตร ตามมาตรฐาน WLTC ส่วนขุมพลังของ Mazda Carol รุ่นปรับอุปกรณ์ มีให้เลือกด้วยกันสองแบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • เครื่องยนต์เบนซิน รหัส R06A แบบ 3 สูบ ขนาด 658 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 64.0 x 68.2 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 กำลังสูงสุด 46 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 55 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ
  • เครื่องยนต์เบนซิน รหัส R06D แบบ 3 สูบ ขนาด 657 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 61.5 x 73.8 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 49 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 58 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 2.6 แรงม้า ที่ 1,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 40 นิวตันเมตร ที่ 100 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อคู่หน้าหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ

 

Mazda Carol รุ่นปรับอุปกรณ์ ปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่หลายรายการ รวมถึงระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา ระบบแจ้งเตือนออกนอกช่องจราจร และจดจำป้ายจราจร ทั้งยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

  • Dual Sensor Brake Support II ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติเมื่อเสี่ยงชน ทำงานร่วมกับกล้องและเรดาร์ ตรวจจับจักรยานยนต์และจักรยานได้ จากเดิมที่ตรวจได้เฉพาะรถยนต์และคนเดินถนน
  • Low-speed Brake Support ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ ทำงานขณะถอยหลัง จากเดิมทำได้เฉพาะขณะเดินหน้า
  • Departure Notification ระบบแจ้งเตือนให้ออกรถ จากเดิมที่ทำงานเฉพาะเมื่อรถคันหน้าออกตัว ตอนนี้แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบสัญญาณไฟเขียวด้วย

 

Mazda Carol รุ่นปรับอุปกรณ์ พร้อมออกจำหน่ายแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฏาคม 2025 ผ่านแครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ โดยมีให้เลือกด้วยกัน 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็น C, G, Hybrid C และ G แต่ละรุ่นย่อยยังสามารถเลือกระบบขับเคลื่อนได้ สนนราคาจำหน่ายที่นั่นแบ่งตามขุมพลังได้ดังนี้

  • เครื่องยนต์สันดาป ราคา 1,222,100 – 1,485,000 เยน (ราว 267,000 – 324,000 บาท)
  • เครื่องยนต์ Hybrid ราคา 1,326,600 – 1,614,800 เยน (ราว 289,000 – 352,000 บาท)

 

ที่มา: Mazda, car.watch.impress