ไม่กี่วันก่อน เราได้รายงานไปว่า VinFast คือแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขาย EV ในสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 23 จากทั้งหมด 25 อันดับ โดยผู้ที่อยู่ตำแหน่งท้ายสุดคือ Mazda ซึ่งมี Mazda MX-30 ออกขายในฐานะ EV รุ่นแรกและหนึ่งเดียวของแบรนด์ในตลาดอเมริกัน อย่างไรก็ตาม EV รุ่นนี้จะยุติการออกขายในปี 2024 และในปีนี้จะขายเท่าที่มี stock เหลืออยู่เท่านั้น

Mazda MX-30 ออกขายในแคลิฟอร์เนีย เพียงรัฐเดียวเช่นเดียวกับ VinFast เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมียอดขาย EV สูงสุดในประเทศ ในส่วนของสถานการณ์ยอดขายของ Mazda MX-30 ไม่สู้ดีเท่าใดนักนับตั้งแต่เปิดตัว เนื่องจากปี 2021 ขายได้ 181 คัน, ปี 2022 ขายได้ 324 คัน และหกเดือนแรกของปี 2023 ขายได้ 66 คัน สำหรับค่าตัวเริ่มต้นในปัจจุบันอยู่ที่ 34,110 USD (ราว 1,157,000 บาท)

 

Mazda MX-30 ขับขี่ได้ไกลสุดเป็นระยะทางเพียง 161 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน EPA เนื่องจากมีแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาด 35.5 kWh ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า กำลังสูงสุด 145 แรงม้า 271 นิวตันเมตร เมื่อเทียบกับ Chevrolet Bolt พบว่าขับขี่ได้ไกลสุด 417 กิโลเมตร และมีค่าตัวเริ่มต้น 26,500 USD (ราว 898,000 บาท) ไม่รวมส่วนลดจากภาครัฐ จึงไม่แปลกใจเท่าใดนักว่าเหตุใด Mazda MX-30 ถึงยอดไม่ค่อยเดิน

ทั้งนี้ Mazda MX-30 จะยังออกขายในยุโรปและญี่ปุ่นต่อไปด้วยรหัส R-EV ซึ่งมีขุมพลัง Rotary มาทำหน้าที่เป็น Range Extender จึงต้องเรียกว่าเป็น PHEV จะเหมาะสมกว่า และต้องติดตามว่าขุมพลัง R-EV นี้จะมาให้ชาวอเมริกันได้สัมผัสแทน EV ที่ยุติไปหรือไม่ แต่ที่แน่นอนคือระหว่างนี้ Mazda สหรัฐฯ จะให้ความสำคัญกับ PHEV ไปก่อนอย่าง CX-90 PHEV ที่เปิดตัวไปช่วงต้นปี และ CX-70 PHEV ซึ่งเตรียมเปิดตัวในปีหน้า

 

ที่มา: caranddriver, carscoops


อ่านข่าว VinFast VF8 นำเข้าไปยังสหรัฐฯ ในปี 2023 ราว 3,000 คัน แต่ขายได้แค่ 128 คัน ได้ที่

>> https://www.headlightmag.com/news-sales-crisis-of-vinfast-vf8-in-usa/