Mercedes-AMG ได้พัฒนาขุมพลัง Hybrid ที่เน้นสมรรถนะไปอีกขั้น พร้อมตั้งชื่อไว้ว่า E PERFORMANCE ซึ่งมีพื้นฐานมาจาก platform แบบ Mercedes Electric Vehicle Architecture (EVA) เบื้องต้นเป็นการจับคู่ระบบ Hybrid เข้ากับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ รหัส M 139 และ แบบ 8 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC

ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าจะติดตั้งไว้ที่เพลาหลัง กำลังสูงสุด 203 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ทำงานแยกส่วนกับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT MCT 9G 9 จังหวะ ที่จับคู่กับเครื่องยนต์ และ ใช้เกียร์อัตโนมัติสองจังหวะโดยเฉพาะ ซึ่งจะเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์สองอย่างช้าสุดที่ความเร็ว 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรองรับการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าความเร็วรอบสูงสุด 13,500 รอบ/นาที

E PERFORMANCE รุ่นที่แรงที่สุด ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบ 815 แรงม้า แรงบิดสูงสุดทั้งระบบ 1,000 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.0 วินาที ในส่วนของระบบไฟฟ้า 400 โวลต์ ทำงานร่วมกับ AMG High Performance Battery ขนาด 560 เซลส์ ที่มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว 14 ลิตร ผ่านเซลส์แบตเตอรี่ทั้งหมด เพื่อควบคุมอุณหภูมิการทำงานภายใต้ทุกสภาวะไว้ที่ 45 องศาเซลเซียส

E PERFORMANCE ของ Mercedes-AMG สามารถปรับรูปแบบการขับขี่ผ่าน AMG DYNAMIC SELECT ได้หกรูปแบบ ประกอบด้วย Electric, Comfort, Sport, Sport+, RACE และ Individual ทั้งยังปรับรูปแบบการหน่วงคันเร่ง เพื่อนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuperation) ได้ 4 ระดับ ตั้งแต่ 0 – 3 โดยระดับ 0 เทียบเท่ารถยนต์เกียร์ธรรมดา เหยียบคลัชต์แล้วปล่อยไหล ส่วนระดับ 3 คือการขับขี่ด้วยคันเร่งอย่างเดียว (one-pedal)

ทั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 และ 8 สูบ ล้วนมาพร้อมกับ Belt-driven starter-alternator ซึ่งเป็นการรวมมอเตอร์สตาร์ทและไดชาร์จเข้าด้วยกันเป็นเครื่องเดียว กำลังสูงสุด 14 แรงม้า มีไว้สตาร์ทเครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบพื้นฐานของรถยนต์อย่าง ระบบปรับอากาศและไฟส่องสว่าง

แม้ทางการจะยังไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า Mercedes-AMG จะนำระบบ E PERFORMANCE ไปใช้กับรถยนต์รุ่นใดเป็นรุ่นแรก แต่มีการคาดการณ์แล้วว่าในส่วนของขุมพลัง 4 สูบ จะไปประจำการณ์ใน AMG C63 รุ่นถัดไป โดยอาจมีกำลังสูงสุดไม่ต่ำกว่า 442 แรงม้า ส่วนขุมพลัง V8 คาดว่าจะไปอยู่ใน Mercedes-AMG GT73 โดยสเปคอาจตรงกับที่กล่าวไว้ข้างต้นเลย

ที่มา: Daimler, carscoops