เหลือเวลาไม่ถึงทศวรรษแล้วที่สหภาพยุโรปจะเดินหน้า แบนการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในปี 2035 ซึ่งแม้ค่ายดาวสามแฉกซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับแนวหน้าในภูมิภาคดังกล่าว ทั้งยังมีกำหนดการเปิดตัว GLC ขุมพลัง EV รุ่นใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าด้วย แต่ CEO ของ Mercedes-Benz ยังแสดงความไม่เห็นด้วยต่อนโยบายดังกล่าว พร้อมกับเปรียบเปรยว่าเป็น ‘การขับรถพุ่งเข้าหากำแพง ด้วยความเร็วเต็มพิกัด’

Ola Källenius ตำแหน่ง CEO ของ Mercedes-Benz แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายการแบนรถยนต์สันดาปของ EU กับหนังสือพิมพ์ของเยอรมนีอย่าง Handelsblatt ว่า ‘เราควรจะทบทวนตามความเป็นจริงก่อน มิเช่นนั้น จะไม่ต่างอะไรจากการขับรถพุ่งเข้าหากำแพง ด้วยความเร็วเต็มพิกัดเลย แน่นอนว่าเราต้องลดการสร้างก๊าซคาร์บอน แต่วิธีที่ใช้ควรจะเป็นกลางด้วยเทคโนโลยี โดยที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจด้วย’

 

Källenius กล่าวเสริมว่า ‘ผมไม่อยากให้มีการขีดเส้นตาย ของการยุติเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาป นอกจากนั้น กำหนดเส้นตายที่แน่ชัดและค่าปรับมหาศาลนั้น ไม่ได้ช่วยอะไรเลย’ CEO ของ Mercedes-Benz ยังเสนอทางออกด้วยการยกประเทศจีนเป็นตัวอย่างว่า ที่นั่นไม่มีการขีดเส้นตายหรือแบนเทคโนโลยีอะไร แต่ใช้มาตรการส่งเสริมแทน ทั้งค่าชาร์จไฟราคาถูกที่สถานีและลดกำแพงภาษี เพื่อสนับสนุนให้คนหันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกันนั้น ยังอนุญาตให้มีการจำหน่ายรถยนต์สันดาปและ Hybrid หลายรูปแบบ ควบคู่กันไป

Källenius ทิ้งท้ายว่าสิ่งที่ภาครัฐของจีนทำนั้น ตรงกันข้ามกับสิ่งที่สหภาพยุโรปทำ และ Mercedes-Benz ไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายเดียว ที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายแบนรถยนต์สันดาปของ EU เนื่องจาก Oliver Zipse ตำแหน่ง CEO ของ BMW เคยกล่าวกับ Bloomberg ในปีก่อนว่า นโยบายนี้ไม่เป็นความจริงอีกต่อไปแล้ว ทั้งยังจะนำไปสู่การหดตัวของเศรษฐกิจอย่างรุนแรง พร้อมทั้งเพิ่มความรุนแรงของการที่ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรป ต้องพึ่งพิงแบตเตอรี่จากจีนให้มากขึ้นไปอีก

 

ที่มา: drive, carscoops