Mercedes-Benz CLS มีรุ่น Facelift ตามมาแล้ว เพื่อสานต่อความสำเร็จของ four-door coupé ซึ่งมียอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคัน โดยตลาดใหญ่สุดอยู่ที่จีน ตามด้วยเกาหลีใต้, สหรัฐ และ เยอรมนี ส่วนเหตุผลที่คนซื้อเพราะดีไซน์สปอร์ต และ ความหรูหราในห้องโดยสาร ในรุ่นปรับปรุงล่าสุดจึงเสริมจุดแข็งดังกล่าวด้วยหน้าตาที่สปอร์ตขึ้น และ ภายในที่ตกแต่งประณีตกว่าเคย

Mercedes-Benz CLS Facelift ปรับภายนอกใหม่หลายส่วน โดยแต่ละรุ่นจะมีอุปกรณ์ตกแต่งเฉพาะรุ่นแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า, กันชนหน้าพร้อมชายกันชน, ครีบระบายอากาศด้านข้าง, ดิฟฟิวเซอร์สีดำ และ ล้อขนาด 19 นิ้ว ลาย 5 ด้านคู่ / ซี่ถี่ หรือ 20 นิ้ว ลายซี่ถี่ AMG สีเทา / ดำเงา ส่วนสีที่เพิ่มเข้ามาใหม่เป็นสีน้ำเงิน Spectral Blue Metallic

ห้องโดยสารเพิ่มลายตกแต่งใหม่เป็น ลายไม้สีน้ำตาล open-pore brown walnut และ ลายไม้สีเทา high-gloss grey wood ส่วนวัสดุหนังเพิ่มสีใหม่สองสีระหว่าง สีเทา Neva Grey / สีเทา Magma Grey และ สีน้ำตาล Sienna Brown / สีดำ Black นอกจากนั้น ยังมีพวงมาลัย multifunction แบบใหม่หุ้มหนัง nappa ตกแต่งด้วยโครเมี่ยม / สีดำเงา และ ยังมีระบบ MBUX พร้อมหน้าจอคู่ขนาดจอละ 10.25 หรือ 12.3 นิ้ว

ขุมพลังของ Mercedes-Benz CLS Facelift มีรายละเอียดดังนี้

เครื่องยนต์เบนซิน

CLS 350

รหัส M 264 แบบ 4 สูบ ความจุ 1,991 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 299 แรงม้า ที่ 5,800 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 3,000 – 4,000 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

CLS 450 4MATIC

รหัส M 256 แบบ 6 สูบแถวเรียง ความจุ 2,999 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,000 รอบ/นาที เสริมด้วย ISG (Integrated Starter-Generator) หรือ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นไดสตาร์ทในตัว กำลังสูงสุด 22 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

CLS 53 4MATIC+

รหัส M 256 แบบ 6 สูบแถวเรียง ความจุ 2,999 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 435 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,800 รอบ/นาที เสริมด้วย ISG (Integrated Starter-Generator) หรือ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นไดสตาร์ทในตัว กำลังสูงสุด 22 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เครื่องยนต์ดีเซล

CLS 220 d

รหัส OM 654 แบบ 4 สูบ ความจุ 1,950 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 237 กิโลเมตร/ชั่วโมง

CLS 300 d 4MATIC

รหัส OM 654 M แบบ 6 สูบแถวเรียง ความจุ 1,993 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 265 แรงม้า ที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,200 รอบ/นาที เสริมด้วย ISG (Integrated Starter-Generator) หรือ มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นไดสตาร์ทในตัว กำลังสูงสุด 20 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 6.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

CLS 400 d 4MATIC

รหัส OM 656 แบบ 6 สูบแถวเรียง ความจุ 2,925 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 330 แรงม้า ที่ 3,600 – 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,200 – 3,200 รอบ/นาที ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 5.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Mercedes-Benz CLS Facelift เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2021 และจะพร้อมส่งมอบในยุโรปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ปิดท้ายกับระบบความปลอดภัยที่ปรับใหม่ ไม่ว่าจะเป็น

  • Active Brake Assist ระบบลดความเร็วโดยอัตโนมัติ เมื่อเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
  • Active Speed Limit Assist ระบบควบคุมความเร็วไม่ให้เกินกฎหมายกำหนด ในแต่ละพื้นที่โดยอัตโนมัติ
  • Active Stop-and-Go Assist ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ เปลี่ยนเลนและลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่ง ก่อนจะออกตัวใหม่ได้เอง
  • Automatic Parking and Exiting a Parking Space ระบบเข้าช่องจอดหรือออกจากช่องจอดโดยอัตโนมัติ

ที่มา : Daimler