ไม่กี่ปีก่อน ค่ายดาวสามแฉกได้ประกาศแผนกลยุทธ์ Ambition 2039 โดยหนึ่งในสิ่งที่ Mercedes-Benz วางแผนจะทำคือ จะกลายเป็นแบรนด์ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวในปี 2030 ในตลาดที่เอื้ออำนวย ทั้งยังมีการคาดการณ์เมื่อปี 2021 ด้วยว่ายอดขาย PHEV และ EV จะคิดเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2025 ล่าสุด ทั้งหมดที่กล่าวมาถูกเลื่อนออกไปทั้งหมดแล้ว
มีรายงานอ้างอิงถึงเอกสารที่ Mercedes-Benz เตรียมไว้นำเสนอกับผู้ถือหุ้นว่า บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขาย PHEV และ EV จะคิดเป็น 50% ของยอดขายทั้งหมดในปี 2030 และจะมีผลเฉพาะตลาดที่มีเงื่อนไขเอื้ออำนวยเท่านั้น นอกจากนั้น Mercedes-Benz จะพร้อมตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของลูกค้า หลังทศวรรษ 2030 หรือตีความได้ว่าค่ายดาวสามแฉก จะยังผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปต่อไป
รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของ CEO ค่ายดาวสามแฉก Ola Kallenius ซึ่งยอมรับว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ ยังเป็นกระดูกสันหลังหลักในเรื่องของกระแสเงินสดในบริษัท ทั้งยังต้องใช้เวลาอีกนานหลายปีกว่าต้นทุนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จะลดลงมาจนเทียบเท่ากับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปซึ่ง Mercedes-Benz คาดการณ์ว่ายังเป็นไปไม่ได้เลยในทศวรรษนี้
ต่อให้เทียบกับต้นทุนการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์หลังเกณฑ์ Euro 7 ซึ่งเข้มงวดขึ้นมากจนต้นทุนสูงขึ้น และมีผลบังคับใช้ในอนาคตอันใกล้ ก็ยังต่ำกว่าต้นทุนการผลิต EV อยู่ดี สำหรับผลประกอบการด้านยอดขายของ PHEV และ EV สะสมทั่วโลกของ Mercedes-Benz ในปี 2023 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีรายละเอียดดังนี้
- ยอดขาย PHEV: 161,275 คัน (ลดลง 12.5%)
- ยอดขาย EV: 240,668 คัน (เพิ่มขึ้น 61.3%)
- รวมยอด PHEV & EV: 401,943 คัน (เพิ่มขึ้น 20.5%)
- ส่วนแบ่ง PHEV & EV เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมด: 7% (เพิ่มจากปี 2022 ซึ่งมีส่วนแบ่ง 16.3%)
- ประมาณการส่วนแบ่ง PHEV & EV เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมด ในปี 2024: 19 – 21%