ดีลการรวมกิจการระหว่าง Groupe PSA และ FCA ได้สำเร็จอย่างเป็นทางการแล้ว หลังมีการประกาศในวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มบริษัทนี้ก้าวขึ้นสู่อันดับที่ 4 ของอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก ในด้านของยอดขายปีละ 8.7 ล้านคัน ทั้งยังส่งผลดีต่อการแบ่งปันเทคโนโลยีและลดรายจ่าย ส่วนชื่อที่ใช้จะเรียกกิจการใหม่จะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้ง

บริษัทที่รวมกันระหว่าง Groupe PSA และ FCA จะแบ่งหุ้นฝ่ายละ 50 : 50 ส่วนบอร์ดบริหารมีทั้งหมด 11 ที่นั่ง แบ่งเป็นฝ่ายละ 5 ที่นั่ง ส่วนตำแหน่ง CEO หรือเก้าอี้ตัวที่ 11 จะเป็นของ Carlos Tavares ผู้บริหารจาก Groupe PSA และมีระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ในทุกการประชุมของบอร์ดจะมีตัวแทนพนักงาน จากทั้งสองบริษัทเข้าร่วมด้วย

คาดว่าการควบรวมกิจการระหว่าง Groupe PSA และ FCA จะเสร็จสมบูรณ์ภายใน 12 – 15 เดือนนับจากนี้ และไม่ได้ส่งผลดีต่อการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเสริมจุดแข็ง เพราะครอบคลุมตลาดรถยนต์ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ premium, รถยนต์นั่ง, รถยนต์ SUV และรถยนต์เชิงพาณิชย์ ส่วนตลาดหลักยังคงอยู่ในยุโรป, อเมริกาเหนือ และละตินอเมริกา ทั้งยังมีโอกาสที่จะขยายไปยังตลาดอื่นด้วย

นอกจากนั้น ยังช่วยลดรายจ่ายในหลายด้านทั้ง ลดรายจ่าย 40% ของการพัฒนา platform, ลดรายจ่าย 40% จากการจัดซื้อ เพราะมีอำนาจการต่อรองราคาที่สูงขึ้น ด้วยปริมาณการซื้อที่มากกว่า และลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด – IT – งานธุรการ – การขนส่งจะลดลง 20% เช่นกัน ซึ่งรวมกันแล้วอาจคิดเป็นมูลค่า 2,800 ล้านยูโร (ราว 94,000 ล้านบาท) ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการปิดโรงงานใดด้วย

 

ที่มา: Groupe PSA