อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในเม็กซิโก คิดเป็นสัดส่วน 23% ของการผลิตทั้งประเทศ ภาครัฐจึงมองว่าการเข้ามาของรถยนต์นำเข้าจากจีน ที่มีราคาต่ำกว่าเกณฑ์อ้างอิงในประเทศอาจเป็นภัยต่อเศรษฐกิจ นำไปสู่การเสนอมาตรการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงสุด 50% จากเดิมที่เก็บในอัตรา 20% โดยประเทศที่จะได้ผลกระทบนั้นไม่ได้มีแค่จีน เพราะยังครอบคลุมถึงเกาหลีใต้, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ตุรกี และ ไทยเราด้วย
Marcelo Ebrard รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโกระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยรักษาการจ้างงานกว่า 320,000 ตำแหน่ง จากอุตสาหกรรมการผลิตในเม็กซิโกให้อยู่รอดต่อไป ไม่เพียงแค่นั้น เม็กซิโกยังมีรายการผลิตภัณฑ์อีก 1,463 รายการ ครอบคลุมถึงเฟอร์นิเจอร์ ที่จะถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้นและแตกต่างกันไป อย่างของเล่น, โลหะ และจักรยานยนต์ จะเพิ่มเป็น 35% ส่วนของถักทอเพิ่มระหว่าง 10 – 50%
มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของเม็กซิโก จะมีผลกระทบต่อมูลค่านำเข้ากว่า 52,000 ล้าน USD (ราว 1,650,000 ล้านบาท) โดย Ebrard กล่าวเสริมว่า ‘แม้สิ่งของในรายการเหล่านี้ รวมถึงรถยนต์จะมีกำแพงภาษีอยู่แล้ว แต่เราจะยกกำแพงภาษีขึ้นสู่อัตราสูงสุดเท่าที่จัดเก็บได้ เพราะหากไม่มีซึ่งการควบคุม เราแทบจะแข่งขันอะไรไม่ได้เลย’ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากสภาอีกครั้ง ซึ่งมีสมาชิกเสียงข้างมากอยู่ในฝั่งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์ว่าส่วนหนึ่งที่เม็กซิโกประกาศขึ้นกำแพงภาษี เป็นเพราะถูกกดดันจากสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เม็กซิโก เป็นช่องทางผ่านของรถยนต์จีนเข้าสู่อเมริกาได้โดยง่าย ด้านรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน ได้แสดงความเห็นว่าจีนจะพิทักษ์สิทธิ์ของตนตามสถานการณ์ พร้อมระบุว่ากลุ่มชาติเอเชียยังหวังจะได้เจรจากับเม็กซิโก เพื่อร่วมมือกันแก้ไขสภาพเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก และพัฒนาการค้าขายต่อไป
