เดิมที Nio ได้แยกแบรนด์ย่อยผลิตภัณฑ์ออกเป็นสองแบรนด์ ประกอบด้วย Onvo และ Firefly โดยทั้งสองแบรนด์มีทีมงานปฏิบัติการแยกจากกันด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้าในจีนที่รุนแรง ประกอบด้วยปัจจัย Onvo มีผลตอบรับจากตลาดไม่ดีจากที่ค่าย เป็นเหตุให้มีการประกาศควบรวมทั้งสองแบรนด์ย่อย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Nio หรือในอีกความหมายคือยุบส่วนงานบางส่วนนั่นเอง โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า Onvo มีแผนกพัฒนารถยนต์ของตัวเอง และมีจำนวนพนักงานถึง 2,000 ตำแหน่ง

การปรับโครงสร้างในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน โดยส่วนแรกเป็น PD&D หรือ Product Design & Development ของ Nio ซึ่งจะเพิ่มแผนกใหม่ในกลุ่ม first-tier ขึ้นมา เพื่อพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ของ Onvo โดยเฉพาะ ทั้งยังครอบคลุมถึงงานส่วนสร้างประสบการณ์ผลิตภัณฑ์, บริการจัดการโครงการ, งานออกแบบ และงานวิศวกรรมยานยนต์ พร้อมกันนี้ จะมีการตั้งฝ่าย Product Line ขึ้นมาด้วย ทั้งหมดจะรายงานตรงถึง William Li ตำแหน่ง CEO ของ Nio

 

อีกส่วนงานของ Onvo มีชื่อว่า UE หรือ User Experience & Service โดยจัดเป็นกลุ่ม first-tier เช่นกัน ซึ่งส่วนงานนี้จะสานต่องานเดิมที่มีของ Onvo ในส่วนงานของการวางแผนและปฏิบัติการ, กลยุทธ์การขายตามพื้นที่, การดำเนินงานฝ่ายขาย, การบริหารจัดการงานขาย และงานการตลาดรวมถึงงาน Event ซึ่งทั้งหมดนี้รายงานตรงถึง Qin Lihong ตำแหน่ง President และ Co-Founder ของ Nio ส่วนแบรนด์ Firefly นั้น ทางการระบุแค่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ PD&D โดยที่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดเหมือนของ Onvo

มีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ Nio ควบรวม Onvo และ Firefly เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ เนื่องจากเป็นการควบคุมรายจ่าย ทั้งนี้ มีแหล่งข่าวภายในหลายคนให้ข้อมูลตรงกันว่า อันที่จริงแล้ว Onvo ถูกควบรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Nio นานมาแล้ว ทั้งยังมีมาตรการลดรายจ่ายเพิ่มอีกประเด็น ด้วยการแจ้งให้ผู้บริหารตำแหน่ง P4 ขึ้นไปว่า 20% ของเงินเดือน จะถูกจ่ายเป็นหุ้นของบริษัทแทน

 

ที่มา: carnewschina, cnevpost