
ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา Nissan ได้ประกาศว่ามีแผนปลดพนักงานทั่วโลกเป็นจำนวน 9,000 ตำแหน่ง พร้อมกับลดกำลังการผลิตลง 20% ล่าสุด มีรายงานจาก NHK เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2025 ว่า Nissan อาจพิจารณาปลดพนักงานทั่วโลกเพิ่มอีก 10,000 ตำแหน่ง ซึ่งเมื่อรวมกับยอดครั้งก่อนหน้าแล้ว จะเท่ากับ 20% ของพนักงาน Nissan ทั่วโลกเลยทีเดียว โดยคำนวณจากยอดพนักงาน Nissan ทั้งหมดราว 133,000 คน ณ เดือนมีนาคม 2024
ด้าน Nissan ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าว แต่มีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ทำให้ Nissan อาจต้องดำเนินนโยบายดังกล่าว เนื่องจากพลาดโอกาสในการสร้างผลกำไร จากตลาดใหญ่อย่างสหรัฐฯ และจีน โดยในสหรัฐฯ นั้น Nissan ไม่สามารถเพิ่มความนิยมของรถยนต์ Hybrid และยังไม่สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำวงการ EV ไว้ได้ แม้จะเคยเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกของรถยนต์ไฟฟ้าก็ตามที

ส่วนในจีนที่ Nissan มีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ 10 รุ่นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อกู้สถานการณ์ยอดขายตกต่ำนั้น Ivan Espinosa ตำแหน่ง CEO คนล่าสุดของ Nissan เคยระบุว่าอาจต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเร่งแก้ปัญหา ทั้งนี้ มีรายงานว่า Nissan จะแถลงผลประกอบการณ์ปิดปีงบประมาณ ซึ่งสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม ในวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าขาดทุน อาจสูงเป็นประวัติศาสตร์ในระดับ 700,000 – 750,000 ล้านเยน (ราว 158,000 – 169,000 ล้านบาท)
ด้าน Carlos Ghosn อดีตผู้บริหารใหญ่ Nissan ได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาไล่เลี่ยกันพอดีว่า เขาเล็งเห็นขาลงของ Nissan มาระยะเวลาหนึ่งแล้ว และรู้สึกผิดหวังกับกลุ่มพันธมิตร (Renault) ด้วย พร้อมกับระบุสาเหตุที่ Nissan เจอปัญหาตอนนี้คือการตัดสินใจนั้นล่าช้าเกินไป และปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการจัดการของ Nissan เอง ก่อนจะทิ้งท้ายเอาไว้ว่า Nissan ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์เข้าตาจนแล้ว ทั้งยังถูกบังคับให้ต้องขอความช่วยเหลือ จากหนึ่งในบริษัทคู่แข่งหลักในญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึง Honda ที่ดีลล่มไปก่อนหน้านี้นั่นเอง