Nissan X-Trail ในออสเตรเลียมีรุ่นย่อยใหม่ตามมาแล้วในชื่อ N-Trek โดยเป็นการนำ ST-L มาต่อยอดด้วยการเพิ่มอุปกรณ์เฉพาะรุ่นทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมกับสีตัวถัง สีเทาดำ Gun Metallic, สีเงิน Champagne Silver, สีครีม Ivory Pearl, สีดำ Diamond Black และ สีเทา Ceramic Grey โดยในส่วนของสีครีม, สีเงิน และสีเทา สามารถเลือกได้ว่าจะเอาสีเดียวทั้งคัน Monotone หรือ Two-Tone กับการตัดสีตัวถังกับหลังคาสีดำ

 

Nissan X-Trail N-Trek คงเอกลักษณ์กระจังหน้าแบบ V-motion grille เอาไว้ แต่เปลี่ยนจากวัสดุโครเมี่ยมเป็นสีรมดำเพิ่มความเข้ม กันชนหน้าปรับดีไซน์ใหม่มาพร้อมกับไฟตัดหมอก LED ของใหม่เช่นกัน ทั้งยังมีชายกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ ตัดด้วยสีเทาดำ ส่วนมือเปิดประตูนอก, กระจกมองข้าง และราวหลังคา มาในสีดำทั้งหมด ปิดท้ายด้วยล้อลายเฉพาะรุ่นขนาด 18 นิ้ว

ห้องโดยสารของ Nissan X-Trail N-Trek ปรับไปใช้วัสดุแบบใหม่กับหนังสังเคราะห์กันน้ำได้ สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนลูกค้าที่ซื้อรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งมีใจรักในการผจญภัย เหมาะกับการขับไปลุยร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แล้วกลับขึ้นรถโดยที่ไม่ต้องกลัวเบาะเลอะ ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นมีทั้ง หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว, มาตรวัดแบบ TFT Digital Dash ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ขนาด 10.8 นิ้ว

 

ขุมพลังของ Nissan X-Trail N-Trek คงเดิมกับ เครื่องยนต์เบนซิน รหัส PR25DD แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 244 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยที่ 13.51 และ 12.82 กิโลเมตร/ลิตร ตามลำดับ

Nissan X-Trail N-Trek เปิดตัวที่ออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2024 และพร้อมออกจำหน่ายแล้ว มีให้เลือกสองรุ่นย่อย สนนราคาจำหน่ายที่นั่นโดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยดังนี้

  • รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 5 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 47,290 AUD (ราว 1,137,000 บาท)
  • รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 7 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 50,390 AUD (ราว 1,212,000 บาท)

 

ที่มา: Nissan