Renault ได้ริเริ่มแนวคิดที่จะค้นหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ที่อยู่นอกเหนือจากการผลิตรถยนต์ในปี 2021 ตามมาด้วยการเปิดตัวยานพาหนะต้นแบบ EZ-1 ในปีเดียวกัน จากนั้น ในปี 2022 ได้พัฒนายานพาหนะต้นแบบจนเป็น Duo (มีส่วนบรรทุกสัมภาระด้านหลัง) และ Bento ก่อนที่จะกลายเป็นเวอร์ชั่นผลิตจริงในปี 2024 พร้อมให้บริการในรูปแบบของเก็บค่าบริการแบบ subscription ในปี 2024 ภายใต้แบรนด์ Mobilize แต่หลังจากนั้นเพียงปีเดียว ทุกอย่างได้จบลง

Renault ได้ยืนยันแล้วว่า Mobilize ไม่ได้เป็นธุรกิจที่แยกออกไปดำเนินกิจการเองแล้ว พร้อมทั้งระบุว่าได้เตรียมที่จะทยอยยุติการให้บริการ car-sharing ในมิลาน ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าไม่ก่อให้เกิดผลกำไรในระยะยาว และไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ การให้บริการในส่วนของสาธารณูปโภคที่ชาร์จ EV จะไม่ถูกยกเลิกไปด้วย เพราะช่วยส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมกับสร้างความพึงพอใจและภักดีในกลุ่มลูกค้า

 

ดังนั้น ธุรกิจในกลุ่มสาธารณูปโภคที่ชาร์จ จะถูกรวมเข้ากับเป็นส่วนหนึ่งของ Renault Group ภายใต้การบริหารงานของ Fabrice Camboliv ตำแหน่ง Chief Growth Officer โดยมีเป้าหมายที่จะขยายกลยุทธ์การใช้ขุมพลังพ่วงระบบไฟฟ้าของบริษัทต่อไป พร้อมทั้งตั้งเป้าขยายเครือข่ายแท่นชาร์จ ultra-fast ในฝรั่งเศสและอิตาลีให้ได้ประเทศละ 100 แห่ง ภายในปี 2026 รวมถึงเตรียมเปิดตัวบริการ V2G ให้กับลูกค้าเชิงพาณิชย์

แม้จะต้องยอมรับว่าไม่สามารถไปต่อได้ แต่ Renault ยังมองว่า Mobilize ได้ทำตามจุดประสงค์ที่ก่อตั้งขึ้นมาแล้ว ทั้งเป็นการสร้างพื้นที่ของการทดสอบแนวคิดใหม่ และการก้าวเข้าสู่ขอบเขตธุรกิจ ที่บริษัทไม่เคยเข้าไปมาก่อน จนส่งผลให้ Renault ได้ค้นหาโอกาสและเรียนรู้ศักยภาพที่แท้จริง แถมยังสามารถนำมาต่อยอดต่อในเรื่องของกลุ่มสาธารณูปโภคที่ชาร์จ ที่จะยังคงดำเนินธุรกิจต่อไป

 

ที่มา: carscoops