เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่แบรนด์ Škoda มีอายุครบ 130 ปี จึงมีการเปิดตัวเวอร์ชั่นพิเศษกับ Škoda Fabia 130 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2025 ซึ่งมาพร้อมกับการปรับแต่งพิเศษทั้งภายนอกและภายใน ทั้งยังเพิ่มสมรรถนะมาอีกขั้น ด้วยการต่อยอดจากรุ่นย่อย Monte Carlo ส่วนสีตัวถังมีให้เลือก 4 สี ทั้งขาว, แดง, น้ำเงิน และ ดำ พร้อมเปิดรับคำสั่งซื้อทันทีในหลายตลาดของยุโรป และมีกำหนดการเริ่มส่งมอบ ภายในเดือนธันวาคม 2025

Škoda Fabia 130 ตัดสีตัวถังด้วยสีดำเงาในส่วนของชายกันชนหน้า, สปอยเลอร์หลัง และดิฟฟิวเซอร์ ไฟหน้าเป็นแบบ Bi-LED ล้อเป็นลาย Libra สีรมดำขนาด 18 นิ้ว ทั้งยังมีท่อไอเสียปลายคู่ พร้อมบ่งบอกความพิเศษด้วยโลโก้ชื่อรุ่น และลายกราฟฟิก ห้องโดยสารมีเบาะทรงสปอร์ตซึ่งยกปีกเบาะให้สูงขึ้น พวงมาลัยเป็นสามก้านทรงสปอร์ตเช่นกัน เสริมด้วยแป้นเหยียบโลหะ และตกแต่งด้วยอะลูมเนียมในหลายจุด ในส่วนของระบบแสดงผลมีมาตรวัดดิจิตอลแบบ Virtual Cockpit ขนาด 10 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว

 

ขุมพลังของ Škoda Fabia 130 เป็นเครื่องยนต์เบนซิน TSI Evo 2 ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 5,750 – 6,000 รอบ/นาที เพิ่มจากเดิม 150 แรงม้า จากการปรับแต่งไส้ใน แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ DSG เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.4 วินาที ไวขึ้นจากเดิม 0.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 228 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงจัดได้ว่าเป็น Škoda Fabia เวอร์ชั่นผลิตจริง ที่แรงสุดเท่าที่เคยมีมา

ช่วงล่างของ Škoda Fabia 130 ลดความสูงลงจากเดิม 15 มิลลิเมตร ช่วยให้มีเสถียรภาพในการขับขี่มากขึ้น พร้อมปรับแต่งพวงมาลัยให้ตอบสนองไวกว่าเดิม เสริมด้วยรูปแบบการขับขี่ Normal และ Sport ส่วนระบบรักษาเสถียรภาพในการขับปรับได้สองรูปแบบ ทั้งยังสามารถสั่งปิดระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Anti-Slip Regulation ได้ ในกรณีที่ต้องการเพิ่มความสนุกในการขับขี่ ภายใต้สภาวะที่ควบคุมได้

 

ที่มา: Skoda