ในไตรมาสแรกของปีนี้ Tesla ได้ส่งมอบรถยนต์ไปทั่วโลก 336,681 คัน โดยมี Model 3 และ Model Y เป็นตัวแบกของค่าย เพราะทั้งสองรุ่นนี้มียอดขายรวมกันเป็นจำนวน 323,800 คัน หรือคิดเป็น 96% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนอีก 12,881 คันที่เหลือเป็นยอดของสามรุ่นใหญ่อย่าง Model S, Model X และ Cybertruck ซึ่งในอนาคตยอดของสามรุ่นใหญ่อาจถดถอยลงไปอีก เพราะมีการปิดรับคำสั่งซื้อในจีนไปแล้วจาก 2 ใน 3 รุ่นดังกล่าว

 

เดิมที Tesla เปิดรับคำสั่งซื้อ Model S และ Model X จากลูกค้าในประเทศจีน โดยเป็นการนำเข้าจากโรงงานใน Fremont ของ California สหรัฐฯ ส่วนคิวรอรับรถจะอยู่ที่ราว 3 – 8 เดือน แต่หลังจากที่เกิดสงครามภาษีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ตั้งกำแพงใส่กันในอัตรา 125% เป็นอย่างต่ำ ส่งผลให้ค่าตัว EV ของทั้งสองรุ่น สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นำไปสู่การถอดคำสั่ง ‘สั่งซื้อตอนนี้’ ออกจากหน้า website และเปลี่ยนเป็น ‘ดูข้อมูลเพิ่มตอนนี้’ แทน

ทั้งนี้ Tesla ยังเปิดรับคำสั่งซื้อของ Model 3 และ Model Y ตามปกติ โดยทั้งสองรุ่นผลิตขึ้นจากโรงงานในจีนเอง ณ Shanghai Gigafactory มีรายงานด้วยว่าจีนไม่ใช่ตลาดแห่งแรกที่ Tesla ยุติการจำหน่าย Model S และ Model X เพราะทั้งสองรุ่นถูกถอดออกจากตลาดญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ใช่ว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นจุดจบของสองรุ่นใหญ่ เนื่องจาก Lars Moravy ตำแหน่ง Vice President of Vehicle Engineering จาก Tesla ระบุว่ายังไม่มีแผนถอดทั้งสองรุ่นออกจาก line-up ทั้งจะมีเวอร์ชั่นอัพเดทตามมาในปี 2025 ด้วย

 

ที่มา: motor1, cnevpost