สมาคมรถยนต์นั่งจีนหรือ China Passenger Car Association (CPCA) ได้รายงานยอดขายรถยนต์ในประเทศ ประจำเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทั้งตลาดมียอดรวม 2,080,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 2.3% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าราว 26.1%

เช่นเคยที่รถยนต์พลังงานใหม่มีส่วนในการขับเคลื่อนยอด ประกอบด้วย EV มียอดขายราว 552,000 คัน ส่วน PHEV มียอดขายราว 289,000 คัน คิดรวมกันแล้วครองส่วนแบ่งในตลาดไป 40.4% สำหรับยอดขาย 10 อันดับแรกแบ่งตามรุ่นและแบรนด์ มีรายละเอียดดังนี้


10 อันดับรถยนต์นั่ง ที่มียอดขายสูงสุดในจีน พฤศจิกายน 2023 แบ่งตามรุ่น

 

  • อันดับ 1. Tesla Model Y – 49,877 คัน (คิดเป็น 2.40% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 2. BYD Seagull– 40,594 คัน (คิดเป็น 1.95% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 3. Nissan Sylphy – 39,105 คัน (คิดเป็น 1.88% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 4. BYD Qin Plus – 38,054 คัน (คิดเป็น 1.83% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 5. BYD Song Plus – 34,904 คัน (คิดเป็น 1.68% จากทั้งตลาด)

 

  • อันดับ 6. BYD Yuan Plus – 30,751 คัน (คิดเป็น 1.48% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 7. Volkswagen Sagitar – 29,680 คัน (คิดเป็น 1.43% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 8. Volkswagen Lavida – 29,009 คัน (คิดเป็น 1.39% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 9. BYD Dolphin – 26,580 คัน (คิดเป็น 1.27% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 10. Wuling Bingo – 24,024 คัน (คิดเป็น 1.16% จากทั้งตลาด)

 


10 อันดับรถยนต์นั่ง ที่มียอดขายสูงสุดในจีน พฤศจิกายน 2023 แบ่งตามแบรนด์

 

  • อันดับ 1. BYD – 250,115 คัน (คิดเป็น 12.02% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 2. Volkswagen – 207,423 คัน (คิดเป็น 9.97% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 3. Toyota – 141,746 คัน (คิดเป็น 6.81% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 4. Geely – 107,557 คัน (คิดเป็น 5.17% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 5. Honda – 106,377 คัน (คิดเป็น 5.11% จากทั้งตลาด)

 

  • อันดับ 6. Changan – 76,804 คัน (คิดเป็น 3.69% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 7. Wuling – 73,039 คัน (คิดเป็น 3.51% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 8. Tesla – 65,504 คัน (คิดเป็น 3.15% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 9. Nissan – 65,141 คัน (คิดเป็น 3.13% จากทั้งตลาด)
  • อันดับ 10. BMW – 64,891 คัน (คิดเป็น 3.12% จากทั้งตลาด)

 

ที่มา: carnewschina