Toyota HiAce รุ่นปี 2026 เปิดตัวแล้วที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2025 พร้อมตอบทุกโจทย์ความต้องการด้วยรูปแบบตัวถังฐานล้อยาว LWB และ ตัวถังฐานล้อยาวพิเศษ SLWB เสริมด้วยทางเลือกตู้ทึบ (LWB Van) หรือตู้โดยสาร (LWB Crew Van) ทั้งยังมีฝาท้ายให้เลือกอีกสองแบบด้วยระหว่าง เปิดออกแบบยกขึ้นหรือแบบตู้กับข้าว ส่วนความแตกต่างภายนอกจากรุ่นก่อนหน้า มีเพียงกระจกมองข้างสีดำ และเพิ่มที่ปัดน้ำฝนหลังสองฝั่งสำหรับตัวถัง SLWB ฝาท้ายตู้กับข้าว

Toyota HiAce รุ่นปี 2026 ปรับเปลี่ยนมาตรวัดใหม่เป็นหน้าจอดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ 9 รูปแบบ ในทุกรุ่นย่อย ทั้งยังเพิ่มเบรกมือไฟฟ้ามาให้ครบทุกรุ่นด้วย พร้อมกับเปลี่ยนสารทำความเย็นใหม่ ให้ระบบปรับอากาศมีประสิทธิภาพดีขึ้น แถมยังขับขี่ในเมืองง่ายขึ้นด้วยการเพิ่มพวงมาลัยไฟฟ้า EPS สำหรับระบบความปลอดภัยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Toyota Safety Sense นั้นเพิ่มมาอีกหลายรายการด้วยกัน
- Lane Trace Assist รักษาระยะให้รถอยู่กลางช่องจราจร
- Emergency Driver Support System หากตรวจพบผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณเตือน ระบบจะประคองรถเข้าข้างทาง ก่อนหยุดรถและเปิดไฟฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ
- Safe Exist Assist ระบบแจ้งเตือนมีรถยนต์หรือจักรยาน พุ่งเข้ามาในฝั่งที่กำลังจะเปิดประตู
- Cruise Control ปรับระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติ ให้ทำงานแปรผันในย่านความเร็วสูง สำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา และในทุกย่านความเร็ว สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
- เพิ่มถุงลมนิรภัยกึ่งกลางอีก 1 จุด รวมเป็น 8 จุด และเพิ่มม่านถุงลมนิรภัยอีก 2 จุด ในรุ่นตู้โดยสาร รวมเป็น 10 จุด
ขุมพลังของ Toyota HiAce เวอร์ชั่นออสเตรเลีย ยังคงเดิมกับ เครื่องยนต์ดีเซล แบบ 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ซึ่งสงวนไว้ให้เฉพาะรุ่นเริ่มต้นของตัวถังฐานล้อยาว LWB เท่านั้น ส่วนรุ่นย่อยอื่นเพิ่มแรงบิดสูงสุดเป็น 450 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลังในทุกรุ่นย่อย
Toyota HiAce เวอร์ชั่นออสเตรเลีย จะพร้อมเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ สนนราคาจำหน่ายที่นั่น ราคา 51,880 – 56,880 AUD (ราว 1,097,000 – 1,203,000 บาท) สำหรับตัวถังฐานล้อยาว LWB ที่มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย และ 62,440 – 63,190 AUD (ราว 1,320,000 – 1,336,000 บาท) สำหรับตัวถังฐานล้อยาวพิเศษ SLWB ซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย


ที่มา: Toyota
