iSeeCars.com ได้ทำการวิจัยตลาดรถยนต์มือสองในสหรัฐฯ ในประเด็นที่ว่าราคารถยนต์ป้ายแดงจะลดลงไปกี่เปอร์เซ็นต์ หากต้องขายต่อในช่วง 5 ปีแรก ซึ่งผลที่ได้พบ โดยแบ่งตามประเภทรถยนต์และขุมพลังได้ดังนี้

  • ค่าเฉลี่ยทั้งตลาด : ลดลง 38.3% (ดีขึ้นจากปี 2019: 10.8%)
  • ขุมพลัง Hybrid : ลดลง 37.4% (ดีขึ้นจากปี 2019: 19.3%)
  • ขุมพลัง EV : ลดลง 49.1% (ดีขึ้นจากปี 2019: 18.0%)
  • ตัวถัง SUV: ลดลง 41.2% (ดีขึ้นจากปี 2019: 10.4%)
  • ตัวถังกระบะ : ลดลง 34.8% (ดีขึ้นจากปี 2019: 7.9%)

 

จะเห็นได้ว่าค่าเสื่อมของรถยนต์มือสองในสหรัฐฯ นั้นมีสถานการณ์ดีขึ้นจากปี 2019 ในทุกประเภท โดยรถกระบะมีค่าเสื่อมต่ำที่สุด ส่วนรถยนต์ไฟฟ้ามีค่าเสื่อมสูงที่สุด ซึ่งทางทีมวิจัยได้วิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ EV ราคาตกเป็นเพราะ EV ใหม่ยังมีเงินสนับสนุนจากภาครัฐอยู่ ประกอบกับความกังวลเรื่องแบตเตอรี่ที่อาจต้องเปลี่ยนใหม่ ทีมวิจัยจึงคาดการณ์ว่า หากไม่มีเงินสนับสนุนจากภาครัฐสำหรับ EV ใหม่ EV มือสองจะราคาตกน้อยลง

 

ทีมวิจัยยังได้รวมรวมค่าเสื่อมเฉลี่ยของ EV ในสหรัฐฯ มาให้ชมกันด้วย 5 รุ่น โดยรุ่นที่ราคาแข็งที่สุดคือ Tesla Model 3 มีค่าเสื่อมเฉลี่ย 42.9% ตามมาด้วย Tesla Model X มีค่าเสื่อมเฉลี่ย 49.9% เป็นอันดับสอง ส่วนอันดับสามคือ Nissan Leaf มีค่าเสื่อมเฉลี่ย 50.8% สำหรับอันดับสี่คือ Chevrolet Bolt EV มีค่าเสื่อมเฉลี่ย 51.1% และอันดับสุดท้ายในอันดับห้ากับ Tesla Model S มีค่าเสื่อมเฉลี่ย 55.5%

 

ที่มา: insideevs, newsbytesapp