หนึ่งในเทคโนโลยีที่พบเห็นในรถยนต์ยุค 2020s มากที่สุด คือการทนแทนปุ่มกดจริงด้วยระบบสัมผัส ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่การย้ายการควบคุมหลักเข้าไปอยู่ในจอรวม แต่ปุ่มกดบางปุ่มยังเป็นระบบกึ่งสัมผัสด้วย โดย Volkswagen คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ตามกระแสดังกล่าว ทั้งยังนำมาใช้กับปุ่มกดบนพวงมาลัย แต่กลายเป็นว่าถูกผู้บริโภควิจารณ์เรื่องใช้งานยาก จนกระทั่งมีผู้บริหารออกมายอมรับก่อนหน้านี้ว่า จะกลับไปใช้ปุ่มกดแบบเดิม ล่าสุด ผู้บริหารอีกรายได้กล่าวย้ำข้อความเดิม เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะแก้ไขประเด็นนี้

Kai Grünitz หัวหน้าฝ่าย Technical Development ของ Volkswagen ระบุว่าบริษัทฯ กำลังออกแบบแดชบอร์ดใหม่ให้กับ ID.3 และ ID.4 เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องในอดีต โดยจะเน้นไปที่ติดตั้งปุ่มกดจริงมากขึ้น ดังที่เห็นในรถยนต์ต้นแบบ ID.2all Concept สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของ Andreas Mindt หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ VW ซึ่งให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าว่า ‘นับตั้งแต่ ID.2all เป็นต้นไป ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับปุ่มควบคุมจริงอย่างน้อย 5 คำสั่ง โดยมีปุ่มปรับเสียง, ระบบปรับอุณหภูมิ, ปรับความแรงลม และไฟฉุกเฉิน’

 

Mindt ยังระบุด้วยว่าตำแหน่งของแผงปุ่มกดจริงทั้งหมด จะอยู่ภายใต้หน้าจอสัมผัสและจะเป็นมาตรฐานในรถยนต์ทุกรุ่นของ Volkswagen ในอนาคต โดยเขายังตอกย้ำว่า ‘จะไม่ทำผิดซ้ำสองกับพวงมาลัยอีก ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ปุ่มกดจริง (บนพวงมาลัย) จะได้ไม่ต้องคาดเดาเวลาใช้งานอีกต่อไป เพราะนั่นเป็นเสียงเรียกร้องจากลูกค้าและเป็นความจริง โดยนั่นเป็นสิ่งที่คนรัก แถมต้องยอมรับว่านี่คือรถยนต์ ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือ’

แหล่งข่าวภายใน Volkswagen อีกรายยังยืนยันด้วยว่า จะมีการนำปุ่มหมุนกลับมาใช้กับการปรับระดับเสียงจริง พร้อมทั้งยอมรับว่าการนำปุ่มกดจริงออกไปก่อนหน้านี้ เป็นความผิดพลาด และยังระบุว่า ‘ถ้าคุณพัฒนาอะไรขึ้นมาซักอย่างแล้วใช้งานได้จริงเป็นเวลานาน นั่นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนสิ่งนั้นเลย’ สำหรับกำหนดการเปิดตัว VW รุ่นใหม่ที่จะกลับไปใช้ปุ่มกดจริงแบบเดิม คาดว่าจะประเดิม 3 รุ่นแรกในปี 2026 ประกอบด้วย เวอร์ชั่นผลิตจริงของ ID.2 และ โฉม Facelift ของ ID.3 และ ID.4

 

ที่มา: motor1, carscoops