หนึ่งในนวัตกรรมที่ติดตั้งมาใน Volkswagen ID.4 คือการแทนที่ปุ่มกดบนพวงมาลัยด้วยระบบสัมผัส แต่กลายเป็นว่าหลังจากที่ผู้บริโภคได้สัมผัสแล้ว ไม่ใช่แค่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่า ใช้งานไม่สะดวกเท่านั้น เพราะล่าสุดเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้ Volkswagen เป็นจำเลยในศาลเรียบร้อยแล้ว หลังมีเจ้าของ ID.4 อย่างน้อยสองคนในสหรัฐฯ ที่ยื่นฟ้องศาลในประเด็นดังกล่าว พร้อมเรียกร้องขอการรับผิดชอบ เนื่องจากระบบนี้ทำให้เกิดอุบัติเหตุ จนเกิดความหวาดระแวงที่จะขับรถยนต์รุ่นนี้
ในเอกสารยื่นฟ้องได้ระบุว่า ระบบสัมผัสบนพวงมาลัยของ Volkswagen ID.4 ทำงานไวเกินไปมาก เพราะเพียงแค่แตะแบบเฉี่ยวๆ ระบบจะสั่งการทันที ทั้งยังเป็นปุ่มควบคุมระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ทำให้รถยนต์ออกตัวอย่างรวดเร็ว ตามความเร็วที่ตั้งไว้ล่าสุด โดยผู้ยื่นฟ้องรายแรกระบุว่า มือของเธอไปโดนปุ่มดังกล่าว ในขณะที่กำลังหักพวงมาลัยเข้าที่จอด ผลลัพธ์คือรถยนต์ได้พุ่งชนจนใต้ท้องเสียหาย คิดเป็นมูลค่า 14,000 USD (ราว 455,000 บาท) และทำให้ผู้ขับขี่บาดเจ็บที่มืออีกด้วย
โจทก์อีกรายระบุว่า Volkswagen ID.4 ของตนได้เฉี่ยวชนกับโรงรถในขณะที่เขากำลังเข้าจอด ส่งผลให้ประตูโรงรถและตัวรถเสียหาย แม้ว่าจะมีโจทก์ออกมายื่นฟ้องเพียงแค่ 2 ราย แต่ในเอกสารนั้น ได้อ้างอิงถึงคำร้องเรียนลูกค้ารายอื่นที่ประสบปัญหาเดียวกัน และส่งถึงหน่วยงาน NHTSA ซึ่งรับผิดชอบความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเนื้อหาตรงกันคือระบบสัมผัสบนพวงมาลัย ทำให้เกิดการเร่งโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือทำให้ไม่สามารถหยุดรถ จนนำไปสู่อุบัติเหตุและการบาดเจ็บในหลายกรณี
จริงอยู่ว่า Volkswagen รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว พร้อมกับออกมายอมรับก่อนหน้านี้ และระบุด้วยว่าจะนำปุ่มกดกลับมาใช้บนพวงมาลัยตามเดิม ซึ่งโจทก์มองว่านโยบายดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาในอนาคต แต่ไม่มีมาตรการแก้ไขรถยนต์ที่จำหน่ายไปแล้ว หรือเยียวยาผู้ที่ประสบเหตุจากระบบดังกล่าวเลย ทำให้ Volkswagen มีความผิดฐานละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค และกฎหมายด้านการรับประกันคุณภาพในสหรัฐฯ ส่วนผลตัดสินจะเป็นอย่างไรนั้น ยังเป็นสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป
อ่านข่าว ผู้บริหาร Volkswagen ยืนยันซ้ำว่า จะนำปุ่มกดจริงกลับมาติดตั้งอีก รวมไปถึง EV ในอนาคต ได้ที่
>> https://www.headlightmag.com/news-volkswagen-confirms-that-physical-button-will-return/