Xiaomi SU7 Ultra คือเวอร์ชั่นที่ดิบเถื่อนที่สุดของตระกูล SU7 เนื่องจากมาพร้อมกับสมรรถนะ 1,548 แรงม้า พร้อมทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 1.98 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง จึงสามารถเรียกเงินค่าตัว 529,900 หยวน (ราว 2,412,000 บาท) ได้จากชาวจีนที่อยากสัมผัสสมรรถนะระดับดังกล่าว แต่จากการอัพเดท software ครั้งล่าสุด version 1.7.0 ทางการกลับตัดตอนแรงม้าไปกว่า 600 ตัว

หลังการอัพเดท software เวอร์ชั่นดังกล่าว Xiaomi SU7 Ultra จะเหลือพละกำลังราว 900 แรงม้า สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งถ้าผู้ขับขี่ต้องการสมรรถนะทั้งหมดกลับมา จะต้องเข้ารับการประเมินฝีมือทำเวลาต่อรอบในสนามที่กำหนดภายใต้ระบบ ‘Qualifying Mode Laptime Assessment’ ทั้งยังมีการบังคับให้ standby เป็นเวลา 60 วินาที ก่อนใช้งานระบบ Launch Control เพื่อป้องกันผู้ขับขี่ นำไปใช้งานในจังหวะออกตัวจากไฟแดง

 

Xiaomi ระบุว่า ‘การควบคุมสมรรถนะของ SU7 Ultra จากการอัพเดท software ครั้งล่าสุด มีขึ้นเพื่อต้องการสร้างความมั่นใจว่า เจ้าของจะสนุกกับสมรรถนะอย่างปลอดภัย นอกจากนั้น พละกำลังระดับ 1,548 แรงม้า ยังพัฒนาขึ้นนเพื่อการใช้งานในสนามแข่ง จึงต้องมีการเตรียมตัวและเตรียมยางที่เหมาะสมด้วย’ หลังการปล่อย software ดังกล่าว ได้เกิดประเด็นถกเถียงของชาวเน็ตจีน ระหว่างผู้ที่เห็นด้วยกับการกระทำของ Xiaomi และเจ้าของ SU7 Ultra ที่ไม่พอใจจากการถูกตัดตอนแรงม้า โดยที่ไม่ยินยอมและไม่มีการแจ้งล่วงหน้าก่อน

ท้ายที่สุดแล้ว Xiaomi ต้องยอมถอย ด้วยการคืนสมรรถนะเต็มระบบให้กับ SU7 Ultra พร้อมกับระบุว่า ‘ขอบอบคุณทุกเสียงตอบรับจากสังคม โดยบริษัทฯ ขอสร้างความมั่นใจว่า ในอนาคตจะมีการสื่อสารอย่างโปร่งใสมากขึ้น’ ประเด็นดังกล่าวจึงนำไปสุ่บทสรุปที่ว่า เจตนารมรณ์ของ Xiaomi คือสิ่งที่ดีและช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง แต่ต้องยอมรับว่ามีสิ่งที่ผิดอยู่จุดหนึ่งคือ ไม่แจ้งให้เจ้าของ SU7 Ultra รับทราบเรื่องเงื่อนไข ก่อนการอัพเดทนั่นเอง

 

ที่มา: insideevs, carnewschina