Xiaomi SU7 ยังเดินหน้าสร้างสถิติทำเวลาต่อรอบสนาม Nürburgring อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมองผ่านๆ แล้วอาจจะนึกว่าเป็นประเภทเดียวกัน แต่อันที่จริงแล้วแตกต่างกัน โดยในเดือนตุลาคม 2024 ได้มีการส่งเวอร์ชั่น Prototype ของ Xiaomi SU7 ไปสร้างสถิติเวลาต่อรอบสนามไว้ 6:46.874 นาที และในตอนนี้ได้มีการลบสถิติในกลุ่มเดิมแล้ว ด้วยตัวเลข 6:22.091 นาที ซึ่งไวกว่า Xiaomi SU7 Ultra เวอร์ชั่นผลิตจริงที่ทำเวลาไว้ 7:04.957 นาที ตามการประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ปัจจุบัน Xiaomi จึงเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนเพียงรายแรกและรายเดียว ที่สามารถขึ้นไปอยู่อันดับสามของตารางสถิติเวลาต่อรอบสนาม Nürburgring ได้ไวที่สุดในรถยนต์กลุ่ม Prototype โดยเป็นรอง Volkswagen ID.R และ Porsche 919 Hybrid EVO เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสนี้ จึงมีการเปิดตัว Xiaomi SU7 Ultra Nürburgring Limited Track Edition ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน และ 10 คันในนี้ถือเป็นรุ่นปี 2025 มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่อัพเกรดให้พร้อมลงสนามเป็นมาตรฐาน

 

Xiaomi SU7 Ultra Nürburgring Limited Track Edition มาพร้อมฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีช่องดักอากาศแบบคู่, ใต้ท้องรถที่พัฒนาใหม่ให้รีดอากาศได้ดีขึ้น, สปอยเลอร์หลังแบบตายตัว, เบาะหลังแข็งสำหรับการแข่งขัน ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์, เข็มขัดนิรภัย 6 จุด และถอดเบาะหลังออก พร้อมแทนที่ด้วย roll-cage ครึ่งลำหลัง ช่วงล่างใช้โช๊คอัพ Blistein EVO R ยางเป็นแบบ semi-slick จาก Pirelli ระบบเบรกอัพเกรดใหม่จาก Endless สำหรับราคาจำหน่ายในจีนอยู่ที่ 814,900 หยวน (ราว 3,707,000 บาท)

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Xiaomi SU7 Ultra รุ่นธรรมดา ยังสามารถสั่งติดตั้ง Track Professional Package เพิ่มได้ โดยจะอุปกรณ์บางรายการของ Nürburgring Limited Track Edition มาด้วย โดยราคาจำหน่ายที่จีนอยู่ที่ 629,900 หยวน (ราว 2,865,000 บาท) ทั้งสองแบบมาพร้อมขุมพลัง EV สามมอเตอร์ ติดตั้งด้านหลังสอง ด้านหน้าหนึ่ง กำลังรวมสูงสุด 1,548 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 1,770 นิวตันเมตร โดยปลดล็อคสมรรถนะเต็มขั้นมาเลยจากโรงงาน พร้อมเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 1.98 วินาที

 

ที่มา: carnewschina, carscoops