หลังจากที่ช่วงเดือน กันยายน ได้มีรถพรางตัววิ่งทดสอบ ปรากฏเป็น Mitsubishi Triton Minorchange ที่ปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ทั้งหมด มาในสไตล์ ” Dynamic Shield ” สามารถชมภาพ และ อ่านข่าวได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/news-spyshot-mitsubishi-triton-minorchange/

Spyshot : Mitsubishi Triton Minorchange หน้า Dynamic Shield อาจได้ใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ?!

17 กันยายน 2018 Mitsubishi Motors ประเทศญี่ปุ่น ได้ปล่อยภาพ Official Teaser อย่างเป็นทางการออกมา พร้อมบอกเล่าเรื่องราว 40 ปีที่ผ่านของกระบะจากค่าย Mitsubishi ที่มีระยะเวลาครบรอบ 40 ปี ตั้งแต่ 1978 – 2018

และ วันนี้เอง Mitsubishi Motors ประเทศไทย ก็ได้ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว สำหรับ Mitsubishi Triton Minorchange เปิดการเปิดตัวครั้งแรกในโลก (World Debut) ที่ประเทศไทย 9 พฤศจิกายน นี้ ! ก่อนหน้างาน Motor Expo 2018 จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายเดือน พฤศจิกายน 2561 ที่ Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี

Generation 1 : เดือน กันยายน 1978

  • Mitsubishi เปิดตัวกระบะ 1 ตันรุ่น Forte และผลิตส่งออกต่างประเทศในหลายชื่อรวมถึง Mitsubishi Truck และ L200 โดยมีการส่งออกไปจำหน่ายยังอเมริกาเหนือ
  • มีบอดี้ให้เลือกเพียงแบบเดียวคือ Single Cab มีเครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร, 2.0 ลิตร และ 2.6 ลิตรเบนซิน กับ 2.3 ลิตรดีเซล
  • ปี 1980 เพิ่มทางเลือกกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-time

Generation 2 : เดือน มีนาคม 1986

  • เปลี่ยนตัวถังใหม่หมด มีบอดี้ Single Cab, Club Cab, Double Cab มีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 และ 2.6 ลิตร ส่วนเครื่องดีเซล เพิ่มความจุเป็น 2.5 ลิตร
  • เดือนมีนาคม 1991 เริ่มใช้ชื่อรุ่น STRADA กับเวอร์ชั่น Double Cab ในญี่ปุ่น

Generation 3 : เดือน พฤศจิกายน 1995

  • รุ่นนี้มีบทบาทสำคัญในประเทศไทย เนื่องจากได้เปิดตัวที่ประเทศไทย ในชื่อ L200 STRADA ผลิตที่โรงงานแหลมฉบัง และ ถูกส่งออกไปยังทั่วโลก
  • มี 3 บอดี้คือ Single Cab, Club Cab และ Double Cab ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 และ 2.8 ลิตร
  • เริ่มต้นใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Easy Select 4WD

Generation 4 : เดือน สิงหาคม 2005

  • เช่นเดียวกันกับรุ่นที่ 3 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ได้มาเปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก คราวนี้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น TRITON (ในประเทศไทย)
  • มี 3 บอดี้คือ Single Cab, Club Cab และ Double Cab ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 และ 3.2 ลิตร
  • เริ่มต้นใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD

Generation 5 : เดือน พฤศจิกายน 2014

  • เป็นโฉมปัจจุบันล่าสุด เปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศไทย และ กำลังจะทำการ Minorchange ปรับหน้าครั้งใหญ่ในช่วง ปลายปี 2018 นี้ และ คาดว่าน่าจะเปิดตัวที่ประเทศไทย เป็นที่แรกในโลกเหมือนเช่นเคย


ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า Mitsubishi Triton Minorchange จะมีไฟหน้าชั้นบน และ กระจังหน้าที่คล้ายกับ Pajero Sport ส่วนไฟด้านล่างที่เป็นส่วนของไฟเลี้ยว และ ชุดไฟตัดหมอกนั้น จะถูกแยกออกมาคล้ายกับรุ่นน้อง Xpander ด้านข้างดูเหมือนว่ากระจกมองข้าง จะมีความโค้งมนกว่ารุ่นปัจจุบัน ลายล้อเปลี่ยนใหม่เป็นแบบ 6 ก้าน ขนาดใหญ่ คาดว่าจะขยับจาก 17 นิ้ว เป็น 18 นิ้ว

กระบะท้ายยังคงใช้ทรงเดิม แต่มีการเปลี่ยนเส้นสายใหม่ โดยเฉพาะบริเวณโป่งล้อหลัง ที่ปรับเส้นสายให้รับกับชุดโป่งล้อด้านหน้าใหม่ จากเดิมที่เป็นคิ้วซุ้มล้อแปะกับตัวรถ ก็จะเปลี่ยนไปใช้ซุ้มล้อแบบ Built-in เหมือนค่ายอื่นๆแล้ว ส่วนไฟท้ายก็น่าจะมีการเปลี่ยนทรงใหม่ โดยขยายขนาดใหญ่กว่าเดิม ส่วนรายละเอียดภายในโคมอาจเปลี่ยนไปใช้ชุดไฟเบรกแบบ LED และ ไฟหรี่ LED Tube

ในส่วนของห้องโดยสารนั้น ไม่มีภาพหลุดติดมาด้วย แต่มีรายงานว่า มีการอำพรางในรถยนต์ทดสอบเช่นกัน ทำให้คาดการณ์ได้ว่า Mitsubishi Triton Minorchange อาจมาพร้อมกับแดชบอร์ด, มาตรวัด และ แผงควบคุมแบบใหม่ ในขณะที่ชุดเครื่องเสียงรุ่นใหม่ และ เบาะที่กระชับลำตัวกว่าเดิมนั้น ล้วนมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มเข้ามาเช่นกัน

ส่วนขุมพลังนั้น ยังไม่มีรายละเอียดปรากฏในขณะนี้ คาดว่าเป็นเครื่องยนต์เดิม ดีเซล รหัส 4N15 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน VG-Turbo – Intercooler พร้อมระบบแปรผันวาล์ว MIVEC กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

แต่อาจจะมีการปรับปรุงสมรรถนะ และ  ต้องรอดูกันว่าจะได้ระบบส่งกำลังใหม่หรือไม่ ที่จากเดิมใช้เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ อาจเปลี่ยนเป็น 8 จังหวะเหมือน Pajero Sport เพื่อให้สามารถสู้รบปรบมือ กับคู่แข่งในตลาดได้อย่างสมน้ำสมเนื้อขึ้น

ทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น รอติดตามการเปิดตัวของ Mitsubishi Triton Minorchange วันที่ 9 พฤศจิกายน นี้ โดยประเทศไทย จะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะได้สัมผัสกัน

สาเหตุที่รถกระบะมักจะเปิดตัวที่ไทยเป็นที่แรกของโลก เพราะ ไทยเป็นตลาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกในรถกลุ่ม Compact Pick-up นั่นเอง


เรียบเรียงข้อมูลโดย www.headlightmag.com


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/67602.0