ถือว่าเป็นปีที่ Porsche ประสบความสำเร็จมากที่สุดในด้านยอดขายตั้งแต่บริษัทดำเนินกิจการมา ด้วยยอดส่งมอบรวมทั่วโลกกว่า 301,915 คัน ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากทุกภูมิภาครวมกัน โดยเฉพาะยอดจากทวีปอเมริกาที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงสุด และประเทศจีนที่รักษาตำแหน่งตลาดที่มียอดขายสูงสุดเอาไว้ได้

เมื่อพิจารณายอดขายทั้งหมดแล้ว จะพบว่าโมเดลที่คว้าตำแหน่งยอดขายสูงสุด มีดังต่อไปนี้

  1. Macan – 88,362 คัน
  2. Cayenne – 83,071 คัน
  3. Taycan – 41,296 คัน
  4. 911 – 38,464 คัน
  5. Panamera – 30,220 คัน
  6. 718 Boxster & 718 Cayman – 20,502 คัน

เฉพาะสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราเติบโตมากกว่า 22% เมื่อเทียบกับปี 2020 ผ่านยอดส่งมอบจำนวนมากถึง 70,025 คัน และเมื่อพิจารณายอดขายทั้งทวีปอเมริกา ก็ยังคงมีอัตราเติบโตเท่ากันที่ 22% โดยมาจากยอดขายจำนวน 84,657 คัน

ประเทศจีนยังคงรักษาแชมป์ตลาดที่มียอดขายสูงสุดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2020 ถึงแม้จะเป็นปีที่มีผลกระทบจากการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ก็ยังขายไปได้มากถึง 95,671 คัน ในขณะที่ยอดขายของ เอเชีย-แปซิฟิก แอฟริกา และ ตะวันออกกลาง ปิดยอดรวมกันที่จำนวน 131,098 คัน

ในขณะที่ประเทศเยอรมนีตลาดบ้านเกิดของ Porsche ขายไปได้จำนวน 28,565 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 9% เมื่อเทียบกับปี 2020 และเมื่อคิดยอดขายรวมของทวีปยุโรป จะเท่ากับ 86,160 คัน ซึ่งมีจุดที่น่าสนใจว่า ยอดขายกว่า 40% ในนั้นเกิดขึ้นจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งแบบ plug-in hybrid และ EV

คุณ Detlev von Platen สมาชิกบอร์ดบริหาร ที่รับผิดชอบฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า “ท่ามกลางวิกฤตการณ์โรคระบาด COVID-19 และการขาดแคลน semi-conductor แต่ทาง Porsche ก็ได้พยายามที่จะขายรถยนต์ให้ได้มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่อยากครอบครองรถสมรรถนะสูงของค่าย และมันก็เป็นผลดีให้กับปี 2022 นี้เช่นกัน ด้วยยอดจองที่สูงลิ่ว ทำให้เรามั่นใจได้ว่า จะสามารถกวาดยอดขายได้จากทั่วทุกมุมโลก”

“ถึงแม้ยอดขายของเราจะเติบโตได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการผลักดันรถยนต์กลุ่มนี้ แต่ทั้งหมดนี้ ก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่ลูกค้าของ Porsche จะได้รับประสบการณ์อันยอดเยี่ยม และเราจะยึดมั่นสิ่งนี้ต่อไปเพื่อทุกตลาดทั่วโลก” คุณ Detlev von Platen กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: Porsche