ถ้าในเมื่อบริษัทรถยนต์เริ่มมองเห็นว่า มีบางตลาดรถยนต์ที่สามารถสร้างผลกำไรให้แก่พวกเขาดีกว่ารถยนต์บางตลาดเป็นอย่างมาก ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมในแต่ละปี เราจะได้ยินข่าวบริษัทรถยนต์เตรียมยกเลิกสายการผลิตรถรุ่นนั้น รุ่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาด SUV กำลังบูมได้ที่ ก็ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กที่ทำกำไรน้อยอาจจะต้องสูญพันธุ์จากตลาดไป

ข่าวล่าสุดก็มีความเป็นไปได้สูงว่าทั้ง PSA Group ผู้ผลิตรถยนต์ Peugeot, Citroen, DS รวมถึง Opel/Vauxhall และ Volkswagen Group อาจเตรียมยุติบทบาทของรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับ A-Segment เนื่องจากยอดขายรถในกลุ่มนี้มียอดขายที่หดตัวลงต่อเนื่องและยากที่จะสร้างผลกำไรได้ในอนาคต

สำนักวิเคราะห์ข้อมูลตลาดรถยนต์ LMC Automotive ได้ประเมินแล้วว่ายอดขายรถยนต์ MiniCar หรือ A-Segment จะมียอดขายต่ำกว่า 1 ล้านคันในปี 2021 จากปี 2017 ที่เคยขายได้ถึง 1.14 ล้านคัน ซึ่ง Justin Cox ผู้อำนวยการของ LMC เผยว่ารถยนต์ในกลุ่มนี้มีกำไร margin ที่น้อยมาก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ผลิตรถยนต์ถึงต้องร่วมมือกันพัฒนารถยนต์ประเภทนี้กัน

Maxime Picat ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ PSA Group เปิดเผยกับสื่อมวลชนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า ประสิทธิผลในการทำกำไรกับรถ A-Segment จะขึ้นอยู่กับความกดดันในการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งเขายังบอกอีกด้วยว่า Volkswagen Group ก็มีแนวโน้มที่จะหยุดทำรถเล็กด้วยเช่นกัน

ปัญหาสำคัญของรถ A-Segment ในยุคนี้คือ ตัวรถที่จำหน่ายในปัจจุบันอย่าง Volkswagen Up! มีการปล่อยค่ามลพิษ CO2 แค่เพียง 95 กรัมต่อกิโลเมตร แต่เมื่อมีกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นก็ทำให้เจ้า Up! ต้องเพิ่มราคาถึง 3,500 ยูโร หรือราคาเริ่มต้นเท่ากับรถ B-Segment คงยากที่จะมีลูกค้ารายใดยอมรับได้

วิธีการเอาตัวรอดของรถ A-Segment ในอนาคตก็คือการแปลงร่างเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV เสีย ซึ่งจะยิ่งได้เปรียบเมื่อราคาแบตเตอรี่ถูกลง ในปัจจุบัน Volkswagen จำหน่าย eUp! ไปแล้ว และในอนาคตทั้ง Skoda และ Seat ก็จะเตรียมจำหน่ายรถเล็กเหล่านี้ภายใต้แบรนด์ของตนเอง

สำหรับเจ้าตลาด A-Segment ในยุโรปอย่าง Fiat 500 ก็เตรียมเปิดตัวรุ่น EV ภายใน 2 ปีข้างหน้า และยังเตรียมพลิกแพลงกลยุทธ์การพัฒนาด้วยการเตรียมเปิดตัว Fiat 500 ตัวถังแวกอนมาในชื่อว่า Giardiniera พร้อมขุมพลัง Mild Hybrid เพื่อจับตลาด B-Segment แทนรุ่น Punto

Johan van Zyl ซีอีโอแห่ง Toyota ยุโรป ก็มองว่ารถ A-Segment ยังมีความสำคัญในการดึงลูกค้าหน้าใหม่ให้เข้าสู่แบรนด์ให้ได้ ทำให้ลูกค้าของ Toyota Aygo โดยเฉลี่ยมีอายุต่ำกว่ารถรุ่นอื่นมาก เพียงแต่ Toyota ก็คงต้องพลิกแพลงในการพัฒนา Aygo ให้กลายเป็น SUV-Crossover แทนที่จะเป็นรถแบบเดิม ๆ

อย่างไรก็ตามก็ดูเหมือนว่ายังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่ารถ A-Segment Hatchback ในยุโรปจะเป็นเช่นไร? เพราะดูเหมือนว่ายอดขายของรถในกลุ่มนี้พอไปวัดไปวา คาดว่าผู้ผลิตหลายรายอาจจะหันเหไปผลิตเป็น EV หรือไม่ก็ SUV ไปเลยมากกว่า

ที่มา : Automotive News