บริษัท Nissan Motor Co., Ltd. ประกาศในวันนี้เกี่ยวกับแผน “Re:Nissan” แผนฟื้นฟูกิจการ หลังประสบปัญหาขาดทุนหนักสุดในประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างธุรกิจให้มีความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด พร้อมประเมินเป้าหมายใหม่และดำเนินการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับโครงการหลักของบริษัท เพื่อการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

Ivan Espinosa ประธานและซีอีโอของ Nissan กล่าวว่า “ท่ามกลางความท้าทายในการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2024 และต้นทุนผันแปรที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งซับซ้อนด้วยสภาวะแวดล้อมที่ไม่แน่นอน เราต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองด้วยความเร่งด่วนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อกลับไปสู่ความสามารถในการทำกำไรภายในปีงบประมาณ 2026”

ด้วยแผน “Re:Nissan” นิสสันตั้งเป้าหมายลดต้นทุน เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรในการดำเนินงานและกระแสเงินสดในธุรกิจรถยนต์ภายในปีงบประมาณ 2026 โดยกรอบการทำงานที่ว่านี้ จะประกอบไปด้วย… การลดต้นทุน (Reduce Cost Structure) กำหนดกลยุทธ์ตลาดและผลิตภัณฑ์ที่นิยามใหม่ (Redefine Market & Product Strategy) และการเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร (Reinforce Partnerships)

1.1 การลดต้นทุนผันแปร ในแผนใหม่ นิสสันได้ตั้งเป้าหมายการลดต้นทุนมากถึง 250 พันล้านเยน โดยจัดตั้งบุคลากรประมาณ 300 คน เพื่อให้มีอำนาจในการตัดสินใจด้านการบริหารจัดการต้นทุน นอกจากนี้ จะมีการจัดระเบียบกลุ่มซัพพลายเออร์ใหม่ เพื่อให้ให้ได้ปริมาณชิ้นส่วนมากขึ้น
1.2 การลดต้นทุนคงที่ นิสสันจะยังคงค้นหาโอกาสเพิ่มเติมเพื่อลดต้นทุนคงที่ โดยตั้งเป้าหมายในการลดต้นทุนรวม 250,000 ล้านเยน ภายในปีงบประมาณ 2026
1.3 การปรับโครงสร้างฐานการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพ นิสสันจะรวมโรงงานผลิตรถยนต์จาก 17 โรงงานเป็น 10 โรงงานภายในปีงบประมาณ 2027 นอกจากนี้ บริษัทจะปรับปรุงความคล่องตัวของโรงงานที่ผลิตชิ้นส่วนระบบขับเคลื่อน และเร่งการปรับเปลี่ยนงาน ปรับการทำงาน และลดการใช้จ่าย รวมถึงการยกเลิกแผนโรงงานแบตเตอรี่ Lithium Iron Phosphate ที่วางแผนไว้ในคิวชู ประเทศญี่ปุ่น
1.4 การลดจำนวนแรงงาน นิสสันตั้งเป้าลดจำนวนพนักงานรวม 20,000 คน ระหว่างปีงบประมาณ 2024 ถึง 2027 ซึ่งรวมถึงการลดจำนวน 9,000 คนที่ประกาศไปก่อนหน้านี้
1.5 การปรับปรุงการพัฒนา นิสสันกำลังปรับปรุงกระบวนการพัฒนา โดยการลดต้นทุนด้านวิศวกรรม ความซับซ้อน และปรับปรุงความเร็วในการพัฒนา ผ่านโครงการต่างๆ รวมถึงตั้งเป้าหมายที่จะลดต้นทุนเฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานลง 20%
นอกจากนี้ นิสสันจะลดความซับซ้อนของชิ้นส่วนลง 70% พร้อมลดจำนวนแพลตฟอร์มจาก 13 แพลตฟอร์มเป็น 7 แพลตฟอร์มภายในปีงบประมาณ 2035 บริษัทจะเร่งความพยายามในการทำให้ระยะเวลาการพัฒนาของรถคันแรกสั้นลงเหลือ 37 เดือน และลดลงเหลือ 30 เดือน ในอนาคต
2. กลยุทธ์ตลาดและผลิตภัณฑ์ที่นิยามใหม่ นิสสันได้ปรับแนวทางในการตลาดเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในท้องถิ่นและปรับกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแนวทางตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในญี่ปุ่นจะเน้นทำตลาดรถยนต์ Hybrid และการฟื้นฟูแบรนด์ INFINITI ขณะที่ในจีนจะมุ่งเน้นไปที่การเสริมประสิทธิภาพรถยนต์กลุ่ม NEVs
นอกจากนี้ จะมีการส่งออกรถยนต์จากจีนเพื่อสนองต่อความต้องการที่หลากหลายและทั่วโลก พร้อมทั้งอาศัยความร่วมมือกับกลุ่มเรโนลต์และพันธมิตรจากจีน เพื่อเพิ่มสร้างความหลากหลายด้านผลิตภัณฑ์ในยุโรป
3. เสริมสร้างความร่วมมือ นิสสันจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้ได้มาซึ้งรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่จะเข้ามาเสริมไลน์อัพ และตอบสนองความต้องการในแต่ละตลาด โครงการหลายโครงการกับพันธมิตร อาทิ Renault, Mitsubishi Motors และ Honda ยังคงดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง ไม่มีแผนล้มเลิกแต่อย่างใด
————//————
