ยักษ์ใหญ่ ตลาดรถยนต์ในเมืองไทย อย่าง Toyota เตรียมสร้าง Surprise ให้กับตลาดรถยนต์เมืองไทย ด้วยการก้าวย่างเข้ามาสู่ ตลาดกลุ่มใหม่ที่พวกเขาไม่เคยลิ้มลองมาก่อน นั่นคือ ตลาดรถกระบะขนาดเล็ก กว่า Toyota Hilux สำหรับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก ร้านค้า หรือ SME ไปจนถึงกลุ่ม Food Truck ด้วยการซุ่มพัฒนา รถบรรทุกเล็ก Light Commercial Vehicles หรือ”รถกระป๊อ” รุ่นใหม่ พิกัดเครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร ซึ่งเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ ของ Daihatsu Gran Max เตรียมเปิดตัวในเมืองไทย ปี 2023

การเปิดตัว รถกระบะเล็กครั้งนี้ จะถือเป็นครั้งแรก ของประเทศไทย ที่ Toyota ตัดสินใจกระโดดเข้าสู่ตลาดรถกระบะขนาดเล็ก เพื่อร่วมชิงส่วนแบ่งก้อนเค้กการตลาด จาก เจ้าตลาดรายเดิม อย่าง Suzuki Carry ที่ทำตลาดในบ้านเรา มาตั้งแต่ปี 2012 และเพิ่งเปลี่ยนโฉมใหม่ ไปเมื่อปี 2019

 

ทำไม Toyota ถึงคิดจะทำ “รถกระบะเล็ก” ขายในเมืองไทย?

เหตุผลง่ายๆ ก็คือ ในอดีตที่ผ่านมา ตลาดกลุ่มนี้ หากเราไม่นับคู่แข่งจากเมืองจีน อย่าง DFSK ซึ่ง เน้นการทำตลาดรถกระบะเล็ก ราคาถูกแล้ว จะมีผู้เล่นจากญี่ปุ่นเพียงรายเดียว นั่นคือ Suzuki Carry ซึ่งครองตลาดในเมืองไทย และใน Indonesia มาช้านาน

เมื่อถึงวงรอบในการพัฒนา รถกระบะเล็ก รุ่นถัดไป Toyota และ Daihatsu เอง ก็คิดไว้ว่า นอกเหนือจากตลาด แดนอิเหนา และญี่ปุ่นแล้ว น่าจะมีตลาดอื่น ที่สนใจอยากได้รถกระบะแบบนี้ ไปจำหน่ายด้วย แน่นอนว่า ประเทศไทย ถูกเพ่งเล็ง ในฐานะเป้าหมายใหม่ สำหรับการส่งออก ของพวกเขา เพราะลูกค้าจำนวนไม่น้อย นิยมซื้อรถกระบะเล็ก ไปใช้บรรทุกสินค้า เพื่อวิ่งในเมือง หรือในระยะทางที่ไม่ไกลนัก รวมทั้งนำไปดัดแปลงในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการนำไปทำเป็นรถขายอาหาร หรือ Food Truck ดังนั้น ตลาดกลุ่มนี้ ยังมีศักยภาพในการขยายตัวอีกมาก

 

ตัวรถจะมีรูปร่างหน้าตา เป็นอย่างไร?

Toyota “กระป๊อ” คันใหม่นี้ จะเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมของ Daihatsu Gran Max ที่เปิดตัวใน Indonesia มาตั้งแต่ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2007 เพื่อทำตลาดทั้งใน Indonesia และส่งออกไปจำหน่าย ในประเทศญี่ปุ่น เป็นครั้งแรก มาตั้งแต่ วันที่ 22 มิถุนายน 2020 อีกด้วย

ตัวรถรุ่นปัจจุบัน มีความยาว 4,295 มิลลิเมตร กว้าง 1,675 มิลลิเมตร สูง 1,920 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร ระยะ Overhang ด้านหน้า 590 มิลลิเมตร ด้านหลัง 1,030 มิลลิเมตร กระบะหลังมีความยาว 2,430 มิลลิเมตร (ส่วนพื้นล่าง ยาวสุด 2,480 มิลลิเมตร) กว้าง 1,585 มิลลิเมตร ขอบกระบะสูง 360 มิลลิเมตร ระยะความสูงจากพื้นกระบะ ถึงพื้นถนน 755 มิลลิเมตร (รถเปล่า) ความสูงจากพื้นใต้ท้องรถ ถึงถื้นถนน (Ground Clearance) 190 มิลลิเมตร

ถ้าวัดจากการใช้งานของลูกค้าชาวญี่ปุ่น ถ้าบรรทุกลังใส่เบียร์ ความยาว 465 มิลลิเมตร กว้าง 365 มิลลิเมตร สูง 315 มิลลิเมตร จะบรรทุกได้ 60 ลัง แต่ถ้า บรรทุก ลังพลาสติก ความยาว 525 มิลลิเมตร กว้าง 365 มิลลิเมตร สูง 305 มิลลิเมตร จะบรรทุกได้ 50 ลัง

 

ภายในห้องโดยสาร ของ Gran Max ดูหรูหรากว่า Suzuki Carry อย่างเห็นได้ชัด มีการติดตั้งช่องวางแก้ว เอาไว้ด้านหน้าช่องแอร์ ทั้ง 2 ฝั่ง สำหรับให้ไอเย็นจากแอร์ เป่าลงมาที่ขวดน้ำหรือแก้วน้ำได้โดยตรง ตำแหน่งคันเกียร์ติดตั้ง บนแผงควบคุมกลาง เพื่อความสะดวกในการนั่งโดยสาร แต่เบาะนั่ง เป็นแบบแยกฝั่งซ้าย – ขวา มีเบรกมือคั้นตรงกลาง ไม่ได้เป็นแบบ ม้านั่งติดกัน มีเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด มาให้ทั้ง 2 ฝั่ง ปรับระดับสูง – ต่ำ ไม่ได้ แต่เวอร์ชันญี่ปุ่น มีระบบ Pretensioner & Load Limiter ดึงกลับอัตโนมัติ และลดแรงปะทะ มาให้ รวมทั้งมีมือโหนจับพยุงตัวขึ้น-ลงจากรถ บริเวณเสาหลังคาคู่หน้า A-Pillar

เวอร์ชันญี่ปุ่น จะพิเศษ ด้วยการติดตั้ง ระบบ ADAS ในชื่อ Daihatsu Smart Assist ประกอบด้วย ระบบเบรกอัตโนมัติ เมื่อมีเจอผู้คนกีดขวาง ระบบเบรกอัตโนมัติ เมื่อผู้ขับขี่ เหยียบคันเร่ง หรือใส่เกียร์ผิด (ป้องกันพุ่งชน 7-11) ทั้งด้านหน้า และด้านหลังรถ ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถคันข้างหน้าเคลื่อนตัวออกไป รวมทั้ง ไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ AHB (Auto High-Beam)

 

ช่วงแรกที่เริ่มออกสู่ตลาด วางเครื่องยนต์ K3-DE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.3 ลิตร 88 แรงม้า (PS) และ 3SZ-VE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร (1,495 ซีซี) 97 แรงม้า (PS) มีเฉพาะเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

ต่อมา เมื่อมีการนำ Gran Max ส่งออกไปขายในญี่ปุ่น เมื่อ 22 มิถุนายน 2020 จึงเปลี่ยนขุมพลังใหม่ วางเครื่องยนต์ รหัส 2NR-VE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร (1,496 ซีซี) กระบอกสูบ x ช่วงชัก 72.5 x 90.6 มิลลิเมตร กำลังอัด 11.5 : 1 พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VVT-i กำลังสูงสุด 97 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาท แรงบิดสูงสุด 13.7 กก.-ม.ที่ 4,400 รอบ/นาที มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 4 จังหวะ

พวงมาลัยเป็นแบบ Rack & Pinion ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ McPherson Strut พร้อมคอยล์สปริง ส่วนด้านหลัง เป็นแบบ แหนบ พร้อมช็อกอัพ ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน ด้านหลัง เป็นแบบดรัมเบรก สวมกระทะล้อเหล็ก พร้อมยางขนาด 175/80R14 99/98N LT

อย่างไรก็ตาม สำหรับ รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ของ Gran Max นั้น อยู่ในระหว่างการพัฒนา ร่วมกัน ของ Toyota และ Daihatsu ภายใต้รหัสโครงการ “IMV 0” (ศูนย์) และคาดว่า น่าจะเป็นโครงการที่ 4 จากความร่วมมือกันของทั้ง 2 บริษัท ที่จะมากำเนิดขึ้นในประเทศไทย คาดว่าน่าจะมีการพัฒนาขึ้น ร่วมกันระหว่าง บริษัทแม่ของทั้งคู่ในญี่ปุ่น กับ TDEM (Toyota Daihatsu Engineering & Manufacturing) ในประเทศไทย เหมือนเช่น โครงการพัฒนา Toyota Veloz , Toyota Yaris ATIV และ Toyota Yaris Hatchback Minorchange ที่จะเปิดตัวในบ้านเราช่วงต้นปี 2023

คาดว่า ตัวรถน่าจะมีขนาดใกล้เคียงกับ Gran Max รุ่นปัจจุบัน และ น่าจะวางเครื่องยนต์ 2NR-VE เหมือนเดิม เพียงแต่อาจมีการปรับปรุงสรรถนะ และการใช้เชื้อเพลิง ให้สอดคล้องกับข้อกำหนดมาตรฐานด้านมลพิษ EURO5 และ EURO6 ที่จะมีการทะยอยประกาศใช้ในประเทศไทย ในอีกไม่กีปีข้างหน้า

ผลิตจากที่ไหน?

ทุกวันนี้ โรงงานของ P.T. Astra Daihatsu Motor (ADM) เป็นฐานการผลิตรถบรรทุกเล็กรุ่น Gran Max เพื่อจำหน่ายใน Indonesia และส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ เช่น Philippines Taiwan และ ญี่ปุ่น อยู่แล้ว ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงมาก ว่า รถกระบะเล็ก หรือรถกระป๊อ รุ่นใหม่ คันนี้ จะถูกส่งออกจากโรงงานดังกล่าว มายังประเทศไทย

จะทำตลาดในชื่ออะไร? และเปิดตัวในไทย เมื่อใด?

เนื่องจากประเทศไทย ไม่มีการทำตลาดแบรนด์ Daihatsu มานาน ตั้งแต่ปี 1998 แล้ว จากปัญหาที่ตัวแทนจำหน่ายรายเดิม เคยมีปัญหากับการคิดคำนวน ภาษีสรรพสามิต เมื่อครั้งที่นำ Daihatsu Mira มาดัดแปลงเป็นรถกระบะ และดัดแปลงต่อเนื่องเป็น รถกระบะ ใส่ที่นั่งด้านหลัง แล้วครอบหลังคากระจกอีกที ทำให้ แบรนด์ Daihatsu หายไปจากตลาดเมืองไทย นับตั้งแต่ช่วงปี 1999 เป็นต้นมา

ดังนั้น ถ้ารถกระบะเล็กรุ่นนี้ จะถูกส่งมาทำตลาดที่เมืองไทย ก็จะต้อง ติดโลโก้ Toyota และส่งขึ้นโชว์รูม Toyota ในบ้านเรา ส่วนชื่อรุ่นนั้น ขณะนี้ ยังไม่มีข้อสรุป อย่างชัดเจน ว่าจะใช้ชื่อ Gran Max หรือ จะตั้งชื่อใหม่ กันไปเลย แต่ มีแนวโน้มว่า อาจจะได้ใช้ชื่อ Toyota LITA  (ลิต้า) ในการทำตลาดเมืองไทย

กำหนดการเปิดตัวรถกระบะเล็กรุ่นใหม่นี้ จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ช่วง ไตรมาส 3 ของปี 2023 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Toyota เองก็เตรียมจะเปิดตัว Hilux ใหม่ รุ่น Full ModelChange พร้อมกับ Fortuner Full ModelChange และ Fortuner Mild Hybrid พร้อมๆกัน!!

———————-///———————-


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here