หลังจากที่ Suzuki ได้ประกาศปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทยไปเมื่อช่วงปลายปี 2024 หนึ่งในประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจก็คือ กลยุทธ์การทำตลาดของ Suzuki ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป และจะมีการนำเข้ารถยนต์รุ่นใดเข้ามาจำหน่ายบ้าง

สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวสารจากเว็บไซต์ Headlightmag.com หรือรายการ DR!VE by J!MMY น่าจะเคยได้ยินถึงแผนการนำเข้ารถยนต์ 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ Suzuki Fronx และรถยนต์ไฟฟ้า eVITARA ล่าสุด ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเริ่มเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากที่ในวันนี้ (28 พฤษภาคม 2025) Suzuki อินโดนีเซีย ได้เปิดตัว Suzuki Fronx อย่างเป็นทางการ

นอกจากการผลิตและจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซียแล้ว Suzuki Fronx ยังมีแผนจะถูกส่งเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยภายในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้อีกด้วย!

 

สำหรับ Suzuki Fronx ที่เตรียมวางจำหน่ายในอินโดนีเซีย จะมีรุ่นย่อยให้เลือกทั้งหมด ดังนี้

  • Fronx 1.5 GL 5MT ราคา 259,000,000 รูเปียห์
  • Fronx 1.5 GL 4AT ราคา 271,000,000 รูเปียห์
  • Fronx 1.5 MHEV GX 5MT ราคา 276,000,000 รูเปียห์
  • Fronx 1.5 MHEV GX 6AT ราคา 293,900,000 รูเปียห์
  • Fronx 1.5 MHEV SGX 6AT ราคา 319,900,000 รูเปียห์

คิดเป็นเงินไทยราวๆ 519,000 – 641,000 บาท ยังไม่รวมค่าขนส่ง ค่าดำเนินการ ตลอดจนภาษีต่างๆ ของประเทศไทย (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2025)

 

สเป็คและข้อมูลเบื้องต้นของ Suzuki Fronx เวอร์ชั่นอินโดนีเซีย มีดังนี้ 

ขนาดและมิติตัวถัง

  • ความยาว 3,995 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง 1,765 มิลลิเมตร
  • ความสูง 1,550 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ 2,520 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ Ground Clearance 170 มิลลิเมตร
  • รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.8 เมตร
  • พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง 290 ลิตร และเพิ่มเป็น 1,009 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง

เทียบกับรถยนต์ B-SUV รุ่นอื่นๆ (ยาว x กว้าง x สูง / ฐานล้อ)

  • Suzuki Fronx : 3,995 x 1,765 x 1,550/ 2,520 มิลลิเมตร
  • Toyota Yaris Cross : 4,310 x 1,770 x 1,615 / 2,620 มิลลิเมตร
  • Honda WR-V : 4,060 x 1,780 x 1,608 / 2,485 มิลลิเมตร
  • Nissan Kicks : 4,330 x 1,760 x 1,610 / 2,615 มิลลิเมตร
  • Mazda CX-3 : 4,275 x 1,765 x 1,550 / 2,570 มิลลิเมตร
  • Hyundai Creta : 4,315 x 1,790 x 1,630 / 2,610 มิลลิเมตร

 

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังของ Suzuki Fronx เวอร์ชั่นอินโดนีเซีย มีให้เลือก 2 รูปแบบหลัก โดยมีรายละเอียดดังนี้

เบนซิน 1.5 ลิตร สำหรับรุ่น GL 5MT และ 4AT

เครื่องยนต์รหัส K15B เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,462 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 74.0 x 85.0 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด MPI (Multi-point Fuel Injection) กำลังอัด 10.4 : 1 พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VVT (Intake & Exhaust Variable-valve Timing) กำลังสูงสุด 105 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ความจุถังนำ้มัน 37 ลิตร

เบนซิน 1.5 ลิตร Mild-hybrid (MHEV) สำหรับรุ่น GL+ และ GLX 5MT และ 6AT

เครื่องยนต์รหัส K15C เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,462 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 74.0 x 85.0 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด MPI (Multi-point Fuel Injection) กำลังอัด 11.9 : 1 พร้อมระบบแปรผันวาล์ว VVT (Intake & Exhaust Variable-valve Timing) กำลังสูงสุด 101 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ที่ 4,400 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า DC Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุดชั่วขณะ 3.1 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 60 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 6 Ah จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า FWD ความจุถังนำ้มัน 37 ลิตร

 

อุปกรณ์มาตรฐานของ Suzuki Fronx เวอร์ชั่นอินโดนีเซีย มีดังนี้

อุปกรณ์ภายนอก

  • ช่วงล่าง
    • ด้านหน้า อิสระ MacPherson Strut
    • ด้านหลัง คานบิด Torsion Beam
  • เบรก
    • ด้านหน้า ดิสก์เบรก
    • ด้านหลัง ดรัมเบรก
  • ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว
  • ยาง ขนาด 195/60 R16
  • ล้ออะไหล่แบบกระทะเหล็ก พร้อมยาง 195/60 R16
  • ไฟหน้าแบบ LED
  • ไฟเลี้ยวพร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED
  • ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding
  • ระบบเปิด – ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
  • ระบบ Guide Me หน่วงปิดไฟหน้าหลังดับเครื่อง และเปิดไฟหน้าเมื่อเดิมเข้าใกล้รถ
  • ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
  • กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า
  • กระจกมองข้างพับอัตโนมัติ เมื่อล็อกรถ
  • มือเปิดประตูภายนอกแบบโครเมียม
  • ราวหลังคา Roof Rail สีดำ
  • ซุ้มคิ้วขอบล้อสีดำ
  • ชายด้านล่างตัวรถตกแต่งด้วยสีดำและสีเงิน
  • เสาอากาศครีบฉลาม Shark Fin
  • ระบบกุญแจ Keyless Entry

 

อุปกรณ์ภายใน

  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น – ลง และเข้า – ออก)
  • ชุดมาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT 4.2 นิ้ว
  • หน้าจอแสดงผล Head-up Display
  • หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว
  • เครื่องเล่น FM/AM
  • ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ไร้สาย Bluetooth
  • ระบบเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • ช่องชาร์จและเชื่อมต่อแบบ USB-A สำหรับด้านหน้า
  • ช่องชาร์จแบบ USB-A และ USB-C สำหรับด้านหลัง
  • ช่องจ่ายไฟ Power Outlet 12V
  • กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
  • เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงผลแบบดิจิตอล
  • เครื่องปรับอากาศ พร้อม Heater
  • ช่องปรับอากาศ สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
  • เบรกมือแบบธรรมดา
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger
  • ระบบไล่ฝ้า กระจกบังลมหลัง
  • กระจกหน้าต่างปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบ One-touch ฝั่งคนขับ
  • เบาะนั่งคนขับปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
  • ช่องเก็บเอกสาร ด้านหลังเบาะคนขับ / ผู้โดยสารตอนหน้า
  • เบาะนั่งด้านหลัง แยกปรับและพับ 60 : 40
  • จุดยึดเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX

 

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่

  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
    • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
    • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
    • ม่านถุงลมนิรภัย
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
  • ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน Hill Hold Control
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
  • กุญแจ Immobilizer
  • ระบบสัญญาณกันขโมย
  • ระบบความปลอดภัย Suzuki Safety Support
    • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC
    • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ DSBS II
    • ระบบเตือนเมื่อมีรถในมุมอับสายตาด้านข้าง BSM
    • ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
    • ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDW
    • ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LKA
    • ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน LDP
    • ระบบเตือนเมื่อรถมีอาการส่ายไปมา VSW
    • ระบบเปิด – ปิดไฟสูงอัตโนมัติ HBA

 

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือกทั้งแบบ Monotone และ Two-tone

Monotone

  • สีขาวมุก Pearl Snow White
  • สีครีม Metallic Savanna Ivory
  • สีเงิน Metallic Silky Silver
  • สีเทา Metallic Magma Grey
  • สีดำ Prime Cool Black
  • สีแดง Pearl Mellow Deep Red

Two-tone

  • สีฟ้า Ice Grayish Blue Pearl Metallic – หลังคาดำ Cool Black Metallic
  • สีครีม Metallic Savanna Ivory – หลังคาดำ Cool Black Metallic
  • สีขาวมุก Pearl Snow White – หลังคาดำ Cool Black Metallic
  • สีเทา Metallic Magma Grey – หลังคาดำ Cool Black Metallic

กำหนดการเปิดตัวของ Suzuki Fronx เวอร์ชั่นไทย จะมีขึ้นในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ สำหรับสเป็คตัวรถในเบื้องต้น จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย มาครบทั้ง 2 ขุมพลัง สำหรับความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม คุณผู้อ่านสามารถติดตามต่อได้ทาง www.Headlightmag.com เช่นเคย


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ Click Here