Mercedes-Benz เปิดตัว The ALL-NEW E-Class รหัสตัวถัง W213 ครั้งแรกในโลก เมื่อเดือน มกราคม 2016 ถือเป็นรุ่นที่ 10 th Generation ในตระกูล E-Class จากนั้นเพียง 3 เดือน Mercedes-Benz ประเทศไทย ก็สั่งนำเข้า E 220d มาทำตลาดในบ้านเราด้วยความรวดเร็ว เปิดราคาออกมา 2 รุ่นย่อย คือ E 220d Exclusive 3,990,000 บาท และ E 220d AMG Dynamic 4,790,000 บาท

เริ่มประกอบในประเทศสำหรับตัวถัง W213 เมื่อเดือน มกราคม 2017 คราวนี้แบ่งออกเป็น 3 รุ่น โดยรุ่น Avantgarde option เทียบเท่า Exclusive ตัวนำเข้า เปิดราคาถูกลง 600,000 บาท เหลือ 3,390,000 บาท / รุ่น Exclusive 3,690,000 บาท / รุ่น AMG Dynamic 3,990,000 บาท ถูกลงกว่าเดิม 800,000 บาท ทั้งหมดยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล๊อคใหม่ล่าสุด รหัส OM654 เช่นเคย

พฤษภาคม 2017 หรือเพียง 4 เดือน ก็แทนที่ด้วย E 350e เบนซิน Plug-in Hybrid แทน มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เช่นเคย Avantgarde / Exclusive / AMG Dynamic ราคาเพิ่มจากตัวดีเซล 100,000 บาท ทุกรุ่นย่อย จากนั้นก็มีการปรับอุปกรณ์ยิบย่อยตามรายปีมาเรื่อยๆ และ เสริมทัพการกลับมาของ E 220d Sport ในเดือน มิถุนายน 2019 ขายควบคู่ไปกับ E 350e Plug-in Hybrid

เมื่อตลาดโลกมีการขยับรหัสใหม่ ประเทศไทยก็ไม่รอช้า เดือน ธันวาคม 2019 เปิดตัว E 300e Plug-in Hybrid แทนที่ E 350e โดยใช้เครื่องยนต์เดิม แต่มีการปรับปรุงอัพเกรดระบบ Hybrid ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยน มอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลัง 122 แรงม้า 440 นิวตันเมตร และ เพิ่มแบตเตอรี่เป็นความจุ 13.5 kW ทำให้มีพละกำลังรวมเป็น 320 แรงม้า 700 นิวตันเมตร หรือ เพิ่มจากเดิม 41 แรงม้า 100 นิวตันเมตร

ก้าวเข้าสู่ปี 2020 E-Class รหัสตัวถัง W213 ก็เดินทางมาถึงกลางอายุตลาดพอดี ปีนี้ Daimler AG (Mercedes-Benz Global) จึงเตรียมเปิดตัว E-Class รุ่น Facelift หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Minorchange แต่ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จาก Official Teaser ที่ถูกปล่อยออกมาเป็นคลิปวีดีโอรีวิว Exclusive Test Drive จาก Autogefuhl ทำให้เราเห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงภายนอกที่ค่อนข้างมากทีเดียว รายละเอียดเบื้องต้น มีดังนี้

  • ไฟหน้า ดีไซน์ใหม่
  • กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
  • ฝากระโปรงหน้า ดีไซน์ใหม่
  • กันชนหน้า ดีไซน์ใหม่
  • ฝาท้าย ดีไซน์ใหม่
  • ไฟท้าย ดีไซน์ใหม่
  • กันชนท้าย ดีไซน์ใหม่
  • พวงมาลัย ดีไซน์ใหม่

ดีไซน์ด้านหน้าตัวรถ มีการเปลี่ยน Theme Design ไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ดูดุดันมากขึ้น ดูคล้ายกับ ALL-NEW CLS ใหม่ แต่เติมความสุขุมเข้าไป กระจังหน้าแบบ Diamond Grille ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ประกบคู่ด้วยไฟหน้า MULTIBEAM แบบใหม่ ที่รายละเอียดในตัวโคมต่างไปจากเดิมมากทีเดียว

ทางด้านท้าย มีการพรางเอาไว้ แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเปลี่ยนดีไซน์ไฟท้ายจากเดิม 1 ก้อน เป็น 2 ก้อนต่อกัน กินพื้นที่เข้าไปในส่วนของฝากระโปรงท้ายด้วย ทั้งนี้ส่วนไฟท้ายที่อยู่บริเวณตัวถังก็เหมือนจะลดขนาดให้ดูเพรียวลงด้วยเช่นกัน ภายในห้องโดยสาร แม้จะไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงเท่าภายนอก แต่ก็มีพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ที่ยังไม่เคยใช้ในรถ Mercedes-Benz รุ่นใหม่รุ่นไหนมาก่อน ให้เห็นกัน

คาดว่า Mercedes-Benz น่าจะเปิดตัว E-Class Facelift ภายในช่วง ไตรมาสแรก (มกราคม – มีนาคม) ต้นปี 2020 นี้ในตลาดโลก หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ

 

 ที่มา : Autogefuhl