TOYOTA MAJESTY 2.8 GRANDE 6AT – 2,199,000 บาท

Likes: ใหญ่บ้านบึ้ม หรูน้องๆ Alphard ขับในเมืองคล่องกว่าที่คาด ให้อุปกรณ์มาคุ้ม ในราคาที่..จะซื้อ Alphard ไปทำไม (วะ)

Dislikes: เร่งแซงมีลุ้นหน่อยเพราะรถโต ช่วงล่างยังมีอาการแบบรถตู้พาณิชย์เหลืออยู่บ้าง การเก็บเสียงและความนุ่ม ทำให้บางทีก็ยังแอบมอง Alphard อยู่

แรกเริ่มเดิมทีผมแทบไม่อยากขับรถคันนี้เลย เพราะถึงแม้ตัวผมจะ 5XL แต่ผมเกลียดการขับรถใหญ่ แล้วคุณหมูก็ยื่นกุญแจเจ้า Majesty นี้ให้ แล้วให้เริ่มขับจากในตัวเมืองที่การจราจรแออัด อยากจะร้องไห้น้ำตาเป็นโค้กมาก แต่ก็ต้องกล้ำกลืน ไม่กล้าบอกน้องว่ารถแบบนี้พี่ขับแล้วประสาทจะกิน

แต่เมื่อลองขับไปได้เพียงไม่ถึง 5 กิโลเมตร ผมกลับรู้สึกเริ่มคุ้นชินกับมันอย่างประหลาด วิธีการวางแนวล้อหน้าที่ยื่นมาข้างหน้าคนขับอาจจะช่วยให้ได้ความรู้สึกที่เหมือนขับรถ MPV หรูตัวโตมากกว่าที่จะเป็นรถตู้ HiACE ตาหวานที่ผมเคยแอบขโมยเพื่อนขับสมัยวัยรุ่น น้ำหนักพวงมาลัยเบา อัตราเร่งและการตอบสนองของเครื่องยนต์เวลาขับในเมืองถือว่าดีมากเมื่อมองว่ารถใหญ่บ้านบึ้มขนาดนี้ แต่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาดความจุแค่ 2.8 ลิตร ผมขับมันไปหลายที่ ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าขับรถใหญ่เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยวกลับรถที่วงเลี้ยวรัศมีแคบกว่า E-Class ตัวถังที่กะระยะได้ง่าย ล้วนช่วยให้ผมขับเรือสำราญเดินสมุทรลำนี้ได้ประหนึ่งเรือประจัญบานขนาดไม่ใหญ่

อย่างไรก็ตาม นิสัยของเครื่องยนต์ Toyota ดีเซลใหม่ๆที่มักมีแรงบิดกว้างแต่รอบปลายเหี่ยว ทำให้เวลาเร่งแซงต้องลุ้นกันหน่อย ขนาดวิ่งตัวเปล่าแล้วก็ยังไม่ทันใจคนที่ขับรถเก๋งอย่างผม ถ้าเป็นรถตู้ 11 ที่นั่งที่อัตราเร่งโหดร้ายสุดในราคาระดับนี้ก็ยังต้องยกแชมป์ให้กับ Kia Grand Carnival ซึ่งจะแปลงร่างเป็น Grand Hannibal Lector ทุกครั้งที่กระทืบคันเร่ง

สิ่งที่ทำให้หงุดหงิดเวลาพยายามจะบู๊ ก็ถูกชดเชยด้วยภายในของรถและอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งทำให้ผมต้องตั้งคำถามว่า “นี่เหรอวะรถที่ถูกกว่า Alphard เกือบเท่าตัว?” เพราะวัสดุที่ใช้ หนังที่หุ้มเบาะ ลายไม้ และวิธีการตกแต่งภายใน มันยกระดับความหรูจนเกือบจะเป็น Luxury Van ได้เลย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าที่ไซส์คนขับแบบผมนั่งได้สบายแน่นอน หน้าปัดเข็มบวกจอ MID ไฮโซเหมือน Camry ชุดจอกลางและเครื่องเสียงที่ให้มาดีใช้ได้ตั้งแต่ต้น โลกของสารถีดูจะไม่เคยไฮโซเท่านี้มาก่อนเลยในราคาระดับนี้

ส่วนเจ้านายที่นั่งเบาะหลัง ก็ต้องบอกว่า เบาะแถวที่สอง ที่เป็นสไตล์ Captain Seat นั้น นั่งสบายเท่า Alphard เลยครับ มีหมอนรองขาพับและกางด้วยไฟฟ้ามาให้ มีที่เท้าแขนแบบบัลลังก์จักรพรรดิ พร้อมที่วางแก้ว และหมอนรองหัวสไตล์มิกกี้เมาส์ ไฟตกแต่งห้องโดยสาร ปรับความสว่าง ปรับสี สร้าง Mood/Tone ได้เครื่องปรับอากาศด้านหลังเป็นแบบออโต้ด้วย ถ้าวันหนึ่งผมเป็นเสี่ยที่ต้องเดินทางแบบมีโชเฟอร์ขับให้ ผมคงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าสิ่งที่ Majesty สามารถให้ผมได้ในวันนี้…ยกเว้น DVD และจอสำหรับดูหนัง ซึ่งคุณสามารถหาได้ใน H-1 กับ Grand Carnival แต่ไม่มีใน Majesty

ที่ต้องบอกอย่างหนึ่งก็คือ คนที่นั่งแถวสาม ก็สบายเหมือนกัน สบายเหมือนนั่งบนเบาะหน้าของรถเก๋งเลย แต่เนื้อที่วางขาจะได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเจ้านายบนเบาะแถวสองจะตัวยาวขายาวขนาดไหน เพราะถ้าหากให้คนสูง 180 อย่างผม นั่งบนเบาะเจ้านายแล้วยืดขาให้สบาย คนที่นั่งข้างหลังผมจะเหลือที่ยืดขาพอๆกับ Mercedes-Benz CLA เท่านั้นล่ะครับ ส่วนเบาะแถวที่สี่นั้น คงขอไว้ให้วัยรุ่นตัวเล็กๆนั่ง ต้องเป็นวัยรุ่นที่ไม่เมารถง่ายด้วย

เรื่องการโดยสาร ผมยกนิ้วโป้งให้กับความสบายของเบาะ และพื้นที่ภายในที่ไม่มีใครใหญ่ไปกว่านี้แล้ว (ถ้าคุณไม่นับ Commuter) ช่วงล่างก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำมาได้นุ่มนวลกว่าที่คาด ผมลองนั่งเบาะเจ้านายแล้วให้คุณหมูเป็นโชเฟอร์ ความสบายที่รู้สึกได้นั้น มากกว่า Hyundai H-1 แต่ยังไม่นุ่มเป็นเก๋งแบบ Alphard หรือ Kia Grand Carnival ผมรู้สึกโอเคเวลารถมันวิ่งไปในแบบที่คนขับรถตู้ส่วนมากขับกัน สบายจนแอบหลับไปเลย แต่เมื่อถนนเริ่มแย่ ความสะเทือนในสไตล์รถตู้พาณิชย์ก็ยังคงเหลืออยู่ แต่อยู่ในระดับที่คนส่วนมากรับได้

อย่างไรก็ตาม บนถนนบางแบบที่มีระนาบซ้าย/ขวาไม่เท่ากัน ตัวรถจะโยนซ้ายขวามากกว่ารถของคู่แข่งแบบรู้สึกได้ และถ้าคุณเป็นรถตู้ตีนผี ใช้ความเร็วเกิน 120 บ่อยๆ อาจจะรู้สึกว่าช่วงล่างมีอาการร่อนๆ ยิ่งช่วงเกิน 150 เป็นต้นไป ความนิ่งและแน่นเทียบไม่ได้กับ H-1 ซึ่งดูเหมือนถูกจูนช่วงล่างมาให้รับใช้ตู้ซิ่งตีนผีอย่างจงใจ การเก็บเสียงใน Majesty ก็ยังไม่ได้ดีแบบรถตู้ Luxury ขนานแท้ วิ่งแค่ 100 กม./ชม. ผมก็ต้องเริ่มตะเบ็งเสียงเพื่อคุยกับคนขับแล้ว และเสียงลมก็ดังทั้งหน้าและหลัง..ซึ่งคงเลี่ยงได้ยากเพราะทรงของรถนั้นต้านลม

แต่ท้ายที่สุด เมื่อลองนับนิ้วคำนวณดูว่าสิ่งที่ได้มา กับราคาที่จ่าย 2.199 ล้านบาท แถมยังเป็นรถนำเข้าจากญี่ปุ่น ผมกลับมีความรู้สึกว่ารถคันนี้คุ้มค่าเงินที่จ่ายเป็นอย่างยิ่ง ถ้าคุณใช้มันทำในสิ่งที่มันเกิดมาเพื่อทำ นั่นก็คือ การพาคนในครอบครัวจำนวนมากเดินทางไปด้วยกัน สนุกไปด้วยกัน มีสารถีช่วยขับให้ คุณได้อุปกรณ์ครบ ได้บรรยากาศน้องๆ Alphard สิ่งที่ต้องไปทำเพิ่มคือจอสำหรับคนเบาะหลังดูหนังสักหน่อย แค่นั้นก็พอแล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มีสารถี ต้องขับรถเอง และต้องใช้เป็นรถคันเดียวในบ้าน ทำหลายสิ่งอย่าง หรือต้องแบ่งรถกันใช้กับภรรยา ผมจะแนะนำ Kia Grand Carnival มากกว่า