Toyota Yaris Cross 1.2 High – 684,000 บาท

(จากราคาของรุ่น Hatchback 1.2 High 649,000 + ชุดแต่งและช่วงล่าง 35,000 บาท)

Likes: ไม่ต้องคอยเลื้อยเวลาเจอทางขึ้นที่สร้างชุ่ยๆ ช่วงล่างนั่งสบายพอรับผู้เฒ่าได้ และวิ่งทางไกลได้ อัตราเร่งดีกว่ารุ่นก่อน เนื้อที่ภายในพึ่งพาได้

Dislikes: ไม่เหมาะสำหรับวัยรุ่นเท้าหนัก ขับความเร็วสูงยังเลี้ยวไม่มั่นคง คันเร่งมีนิสัย On and Off อุปกรณ์และภายในดูธรรมดา

ผมไม่แน่ใจว่า Toyota จะทำรถอย่าง Yaris Cross ออกมาทำไม เพราะเพิ่มงบอีกแสนบาทจาก Yaris แฮทช์แบ็ค คุณจะมีตัวเลือกที่เป็นรถสไตล์ครอสโอเวอร์ ใต้ท้องสูง (สูงกว่าเก๋ง..แต่ไม่ได้สูงขนาด SUV) ให้เลือกอีก ไม่ว่าจะเป็น Mitsubishi Xpander, Honda BR-V หรือ MG ZS แต่เมื่อสอบถามเซลส์ Toyota ที่สนิทกัน ก็ได้ความว่า Yaris Cross นั้นเป็นหนึ่งในรถที่ต้องจองและรอคิวนานกว่าปกติจึงจะได้รับรถ และเมื่อสังเกตดูบนถนน เห็น Yaris Hatchback สิบคัน ก็จะเป็นรุ่น Cross ไปแล้ว 3-4 คัน หลายคนอาจว่าน้อย แต่นั่นมากกว่าที่ผมคาดไว้

บางทีอาจเป็นเพราะผมมองโลกในมุมของคนบ้ารถมากเกินไป ในโลกข้างนอกเว็บไซต์รถยนต์ ความต้องการของคนมีหลากหลาย และลูกค้ากลุ่มที่เลือก Yaris Cross หลายคน เลือกเพราะ 1. อยากคบแบรนด์ที่ตัวเองคุ้นเคย และ 2. อยากได้รถใต้ท้องสูง ไม่ใช่จะไปป่าที่ไหน แต่ถนนแถวบ้านมันคุณภาพจิ้งจกมาก และ 3. รถอย่าง C-HR และ HR-V มีราคาสูงเกินไป ครั้นจะให้ไปเล่น Xpander ลูกค้าเหล่านี้ก็บอกว่ามันดูเหมือนรถของคนมีครอบครัว ซึ่งเมื่อตัวเองยังโสดอยู่ ก็ไม่อยากให้เกิด Scene ว่าพาหลานเที่ยวแล้วคนดันนึกว่าเค้าเป็นแม่ลูกสองแล้ว

เครื่องยนต์ 3NR-FKE ตัวใหม่ เห็นม้าเพิ่มแค่ 6 ตัว (รวมเป็น 92 ตัว) แต่พอขับจริง เห้ย มันลื่นขึ้น ตอนออกตัวแม้จะนิสัยยานก่อนยิงเหมือนเดิม แต่มันได้สติตั้งตัวเร็วขึ้น เมื่อกดจับเวลาออกมา Yaris Cross ตัวสูงยาง 195 มม. นี้ก็ยังไปเร็วกว่า Yaris ATIV ตัวแรก 86 แรงม้า 0-100 จบใน 13.85-14.25 วินาทีและเร่งแซง 80-120 ไปเกียร์ S จบได้ภายใน 10.45 วินาที มันเป็นตัวเลขระดับที่เล่นกับอีโคคาร์ 1.2 ลิตรคันอื่นได้ (ยกเว้น Swift ซึ่งตัวเบามาก) แต่อย่าไปเทียบกับอีโคคาร์ เฟรชชี่มีหอย 1.0 ลิตรก็แล้วกัน

ไอ้ตอนอยากจะเรียกแรง มันไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แรงขนาดนี้ขับได้รอบประเทศ แต่ปัญหาคือการจูนคันเร่ง ไม่รู้จะหน่วง..หน่วงแบบ Find your father น่ารำคาญไปไหน คุณกดคันเร่งแบบนิดๆ มันจะมีแรงฮึดออกเหมือนให้รู้สึกว่ามีแรงดี แต่พอกด 30-40% มันจะไปแบบเหนื่อยๆหนืดๆ หรือบางทีจะทำเป็นพุ่งก่อน แล้วจู่ๆก็ตื้อราวกับคนขับยกคันเร่ง ทั้งๆที่คันเร่งก็ถูกคาไว้เท่าเดิมตลอด บางทีกด 60-70% ก็ยังหนืดๆเหนื่อยๆ อยากจะแรง ต้องกระแทกเต็มแล้วยิงยาวไปเลย สิ่งนี้ทำให้พวกที่ขับรถช้าๆ..ไม่รู้สึก..พวกที่กระทืบตลอด S ตลอด ไม่รู้สึก แต่คนที่ขับกลางๆค่อนข้างเร็วนั่นแหละครับจะรำคาญ ว่ากันว่าที่เซ็ตคันเร่งแบบนี้ก็เพื่อให้รถประหยัด และลดมลภาวะจนผ่านเกณฑ์อีโคคาร์ Phase 2 หากเป็นอย่างหลังนี่ Toyota ก็คงต้องยอมให้มันเป็นอย่างนั้น ทำอะไรไม่ได้

สำหรับเรื่องการขับขี่ ช่วงล่างของ Yaris Cross นี่ต่างจากตัว Hatchback ไม่มากเมื่อขับโดยคนทั่วไป มันมีความนุ่มนวลเหลือมากพอสำหรับการพาผู้ใหญ่นั่ง และมีความหนักแน่นพอสมควรเมื่อเทียบว่านี่คือรถขนาดเล็ก แต่มันมีความคล้ายรถอย่าง Honda HR-V ตรงที่ทุกอย่างดูดี หากคุณขับไม่เร็ว มันโอเคมาก เล่นโค้งความเร็วต่ำๆก็ยังได้ แต่เมื่อใช้ความเร็ว 120 เป็นต้นไป หากคุณคิดจะโยกพวกมาลัยเล่น ก็ขอให้ระวังไว้หน่อย ไปดูโฆษณา Yaris Cross ที่คุณญาญ่าขับ..จะบอกว่าในชีวิตจริงคุณจะอยากขับในแบบตรงกันข้ามมากกว่า ความสูงที่เพิ่มขึ้น ก็ส่งผลต่อแรงเหวี่ยงกระทำต่อตัวรถ ถ้าถนนลื่น แล้วเลี้ยวแรง เปอร์เซ็นต์จะหันกลับไปสวัสดีรถคันข้างหลัง มันจะมากกว่าแฮทช์แบ็คตัวเตี้ยๆ

ช่วงล่างที่เพิ่มความสูงมาก 30 มิลลิเมตรนั้น ดูเหมือนไร้ประโยชน์หากเทียบกับพวกรถ SUV ตัวจริง แต่มันก็ช่วยให้อีโคคาร์คันเล็ก มีความสูงใต้ท้องใกล้เคียงกับรถอย่าง C-HR เพิ่มโอกาสรอดเวลาเจอน้ำท่วมได้นิดๆ แต่น่าจะมีประโยชน์เวลาขับบนถนนแย่ๆ ทางเข้าบ้านหรืออาคารที่คนสร้างอาจจะมีความคิดว่าโลกนี้มีแต่ SUV แล้วไม่ทำเผื่อรถเก๋งให้เลี้ยวขึ้นโดยไม่ครูดบ้างเลย

ภายในของ Yaris Cross ก็คล้ายกับที่แล้วมา มีการเปลี่ยนเครื่องเสียงชุดใหม่ จอทัชสกรีนขนาด 6.7 นิ้ว มีกล้องมองหลัง แต่ยังไม่มีกล้องรอบคัน  หน้าปัดเป็นแบบเข็มที่ได้ทั้งสวยและอ่านค่าง่าย อย่างน้อยก็มีจอ MID แบบสีแสดงข้อมูลได้หลายอย่าง ดูทันสมัยเอาใจวัยรุ่น  การตกแต่งภายในใช้พลาสติกกับวัสดุสีดำเงาเป็นตัวนำ ไม่มีลูกเล่นบุนุ่มแบบรถของค่ายอื่น ทำให้ดูจืดไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็มีที่นั่งแหกแข้งขาสบายสำหรับคนตัวใหญ่ เบาะนั่งมีพนักพิงหลังขนาดโตอิงสบาย หมอนรองศีรษะดันมาข้างหน้าคล้าย Nissan แต่นุ่มหัวกว่า เบาะหลังมีพื้นที่น้อยกว่า Nissan Note ที่เด่นสุดในคลาสเรื่องนี้ แต่เบาะรองนั่งมีความนุ่มแน่นสบายกำลังดี แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้า มีให้ทั้งสองข้างเผื่อผู้สาวที่พาเพื่อนสาวเที่ยวอาจจะอยากแต่งหน้าพร้อมกันตอนรถติด ที่ชอบอีกอย่างคือ เข็มขัดนิรภัยปรับระดับได้ ซึ่ง Honda กับ Nissan จะไม่มีให้ในอีโคคาร์ของพวกเขา

อุปกรณ์ต่างๆที่มีให้นั้น ดูค่อนข้างธรรมดา มีตามมาตรฐานปกติของอีโคคาร์ระดับนี้ ไม่มีลูกเล่นล้ำสมัยอย่าง Mazda และในด้านอุปกรณ์ความปลอดภัย แม้จะมีระบบรักษาการทรงตัวและถุงลมนิรภัย 7 ใบ (มากที่สุดในคลาส) แต่ยังขาดอุปกรณ์เชิงป้องกัน เช่นระบบเตือนรถในจุดบอดกระจกมองข้าง (Almera มี) ระบบเตือนรถคันหน้าเบรกพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Nissan Note และ Almera มี)

ดูเหมือนว่า Yaris Cross จะมีจุดเด่นจริงจังเพียงข้อเดียวคือเรื่องช่วงล่างยกสูง ที่ถูกใจคนใช้รถบนถนนสภาพห่วยแตกของเมืองไทย นอกเหนือจากนั้นแล้ว มันก็คืออีโคคาร์คันนึงที่แอร์เย็นจัด นั่งสบาย มีเรี่ยวแรงเพียงพอ และให้ทุกอย่างไม่มากไปกว่าที่ค่ายอื่นให้ มันไม่ใช่รถสำหรับคนที่นั่งอ่านโบรชัวร์ทีละบรรทัดเทียบอุปกรณ์ ดูแรงม้า ดูแรงบิด แต่เป็นรถสำหรับคนที่มองหารถเพื่อใช้งานจริงจัง เน้นความดีงามจากส่วนที่ Basic ที่สุดของรถ และในเมื่อราคาของ Yaris Cross ก็แพงกว่ารุ่น Hatchback ปกติแค่ 35,000 บาทในขณะที่หน้าตาดูไฉไลคนละเรื่อง มันจึงเปรียบเสมือนโบนัสสำหรับสาววัยรุ่นคนเมือง มองหารถคันใหม่ที่ไม่เกินกำลังทรัพย์ และไม่อยากได้รถที่ขับแล้วดูเหมือนหญิงที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว

ปล. อาการเร่งไม่ออก รถไม่ไป วูบหมดแรง ยังไม่พบในรถคันนี้นะครับ แต่ทราบว่ามีหลายท่านที่พบอาการรถเร่งไม่ไป ล้อไม่หมุน เอาเข้าไปเคลมที่ศูนย์ได้ครับ