BMW M2 DCT – ราคา 5,939,000 บาท (BSI Standard) หรือ 6,029,000 บาท (BSI Ultimate)

(ราคา ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2017)

  • Likes: แรงดึง พวงมาลัย เกียร์ เสียงเครื่อง เสียงท่อ ช่วงล่าง เกือบทุกอย่างที่ทำให้นักขับพอใจ
  • Hates: ราคาไม่น่ารัก อธิบายไม่ได้ว่าอะไรทำให้ M2 แพงกว่า C43 4 MATIC ตั้งแปดแสนบาท

บางคนอาจจะบอกว่า M2 เป็น M ไม่แท้ เพราะใช้เครื่องยนต์ N55 ที่เอามาจาก 435i และรุ่นเก่ากว่านั้น แถมหลายส่วนของตัวรถยังถูกจกมาจากรถรุ่นอื่นๆในค่าย ช่วงล่างบางส่วนมาจาก M4 และตัวรถหลักก็คล้ายกับ 218i ซึ่งก็เป็นคูเป้สายหวานเย็นสำหรับขับไปขับมาในเมือง

ผมมีความคิดที่แตกต่างออกไป เพราะจากมุมมองของคนทีขับรถมามากพอสมควรอย่างผม M2 มีสิทธิ์ทุกประการที่จะเรียกตัวเองว่าเป็น TRUE M-Car พลังจากเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรเทอร์โบ 370 แรงม้าที่ทำงานร่วมกับเกียร์ M-DCT 7 จังหวะนั้น ดึงแรง กดตรงไหนดึงตรงนั้น มีพละกำลังเป็นช่วงกว้างและลากหวานๆไปถึงรอบสูงด้วยสุ้มเสียงที่โหด..โหดแบบธรรมชาติ ไม่ใช่ว่าเอาเสียงท่อข่มอย่างเดียว ในระยะทาง 1.7 กิโลเมตร มันเพียงพอที่จะทำให้ M2 เร่งไปถึง 243 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ และใช้เวลาแค่ 20 วิเศษๆในการแตะ 200 ทั้งที่น้ำหนักบรรทุกในรถ 250 กิโล

ก่อนที่คุณจะอินกับ M2 มากไปกว่านี้ ผมขอเบรกนิดนึงก่อนด้วยการแจ้งให้ทราบว่า…AMG SLC43 ก็ทำอัตราเร่งได้ดีพอกัน เข้าเส้นระยะ 1.7 กิโลเมตรได้ด้วยความเร็ว 244 และราคาถูกกว่ากันเป็นล้าน ดังนั้นถ้าคุณต้องการรถเชื้อสายยุโรป ขับแล้วดูรวย กดคันเร่งแล้วดูน่ากลัว บางที SLC43 อาจจะมีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์มากกว่า

แต่สิ่งที่ทำให้ M2 เป็นรถสำหรับนักขับที่ดีกว่า SLC อยู่ที่การทำงานประสานกันในทุกจุด พวงมาลัยแม่น หน่วงมือพอดี ขยับอย่างเป็นธรรมชาติ สื่อสารเหมือนลูกน้องที่รู้ใจ เกียร์ M-DCT ทำงานเร็ว เฉียบ สั่งปุ๊บกระโดดต่อยปั๊บ ช่วงล่างไม่ได้แข็งดีดจนน่ารำคาญ มันออกจะเก็บแรงสะเทือนได้ดีเกินคาดด้วยซ้ำสำหรับรถประเภทนี้ ลองขับ SLC43 สักชั่วโมงแล้วกระโดดไปนั่ง M2 คุณจะรู้สึกไปเองด้วยซ้ำว่าวิศวกร BMW เลือกโช้คมาผิดสเป็คหรือเปล่า ทำไมมันดูนุ่มๆ (แต่ลองสาดโค้งดูก็จะเลิกสงสัย)

ที่สำคัญคือมันเป็นรถคูเป้ที่มีพื้นที่ภายในไม่เล็ก คนตัวใหญ่นั่งก็ยังรู้สึกสบาย ทุกอย่างอยู่ในตำแหน่งที่ควรอยู่ หยิบ จับ ขยับ เข้าได้ง่าย ส่วนการใช้งานตามปกติ..ก็ขับเหมือนรถปกติทุกประการยกเว้นเกียร์ M-DCT ที่เราต้องกดคันเร่งเวลาออกตัว (ไม่ได้ปล่อยเบรกแล้วรถออกตัวเลยแบบเกียร์อัตโนมัติ) และต้องเรียนรู้วิธีการเข้าเกียร์ N กับ P นิดเดียว นอกนั้นสบาย

อุปกรณ์ติดรถอาจจะไม่ได้เยอะ แต่ถ้าคุณไปดู M4 ราคา 8 ล้านกว่า แล้วมาดู M2 ราคา 6 ล้าน คุณจะพบว่าจริงๆแล้ว M2 คือรถที่คุ้มราคากว่า มันไม่แรงเท่า M4 และเวลาซัดหนักๆจะหลุดง่ายกว่า M4 แต่นั่นคือจุดที่ทำให้มันทำให้คนขับ Enjoy ไปกับรถได้ในแบบที่พอดี…ขับให้มันพยศมันก็พยศ ขับให้มันอยู่กับร่อง มันก็อยู่ตามรอย ขับพาแฟนกินข้าว แฟนไม่บ่นแคบบ่นสะเทือน ขับพาพ่อไปธุระ ขี้คร้านพ่อจะโปะยาสลบคุณแล้วแอบชิงตำแหน่งคนขับแทน

นี่คือรถที่ทำตัวตามคำจำกัดความของ Performance Car ได้ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆตั้งแต่ผมทำ Headlightmag มา และโดยส่วนตัว ผมชอบมันมากกว่า M4 (ส่วนหนึ่งเพราะราคาด้วย) แต่สิ่งเดียวที่ไม่น่ารักในรถคันนี้ก็คือ ความเพอร์เฟ็คท์ ความลงตัวต่างๆ มันมีราคาแพง ในเคสนี้คือ แพงกว่า C43AMG ขับสี่อยู่ราวแปดแสนบาท ทำให้รู้สึกว่า M2 เหมือนพนักงานที่เก่งกาจ แต่ได้เงินเดือนเยอะกว่าที่ควรจะเป็น

แต่ถ้าคุณยินยอมจะจ่าย ก็เอาเถอะ มันอาจไม่ดีต่อสุขภาพ แต่มันดีกับประสบการณ์การขับขี่คุณแน่นอน

——/////——

แสดงความคิดเห็นบนเว็บบอร์ดได้ที่นี่