Mercedes-AMG SLC43 – ราคา 4,990,000 บาท (ณ เดือนกันยายน 2017)

  • Likes : พลังกำลัง อัตราเร่ง เกียร์ดุกว่า SLC300 เปิดหรือปิดหลังคาวิ่งก็เก๋
  • Dislikes : ระบบมัลติมีเดียและหน้าปัดยังเป็นเวอร์ชั่นเก่า ช่วงล่างแข็งแบบรถซิ่งแต่ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบ ราคาแพงกว่า C43

ถ้าให้มองมันเป็นผู้หญิง รถคันนี้เปรียบได้กับคนที่นำเสื้อผ้าแฟชั่นยุคเก่ามาสวมใส่ใหม่อีกครั้งแล้วคลุมทับด้วยแจ็ตเก็ตหนังแบบไบคเกอร์ คุณจะเห็นกลิ่นอายความเก่าแฝงอยู่ทุกอณู เพราะ SLC มันก็คือ SLK R172 ที่ขายมานาน 5-6 ปีแล้ว แดชบอร์ดกับภายในยังดีทีเลือกดีไซน์อิงความคลาสสิค ทำให้ดูแล้วไม่ตกยุคง่ายแบบภายนอก ส่วนที่ตกยุคจริงๆคือระบบการสั่งมัลติมีเดียที่ไม่ใช่ทัชสกรีนและไม่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆได้ถึงใจแบบ E-class ใหม่ สวิตช์ปรับ Dynamic Select น่าจะเป็นปุ่มที่สั่งง่ายกว่านี้ไม่ใช่ต้องกดปุ่มเดียวแล้วไล่ไปทีละขั้น เวลารีบๆ กดเลยป้ายแล้วมันชวนหงุดหงิด

นอกจากนี้ระบบปรับอากาศยังเป็นแบบธรรมดา..เพราะคนเลือกอุปกรณ์ (ที่เป็นฝรั่ง ไม่ใช่คนไทย) เขาบอกว่าเมืองไทยร้อนตลอดอยู่แล้วและห้องโดยสารก็แคบแค่นี้จะเอาแอร์ออโต้สองสามโซนไปทำไม…เรื่องอากาศร้อนนี้ก็ไม่ขอเถียง แต่อารมณ์ของคนจ่ายเงินซื้อรถราคาเกือบห้าล้านที่ไม่ใช่รถถนนแบบตกแต่งพร้อมแข่งสนาม บางคนก็อาจจะไม่ชอบนัก

ถ้าคุณกำลังคิดจะซื้อ SLC43 มาเป็นรถสปอร์ตแบบอเนกประสงค์ ก็อย่าเพิ่งคิดถึงการขับขี่อันน่ารื่นรมย์ไปตามตัวเมืองแบบโรแมนติก เพราะเท่าที่ลองมา..มันไม่เวิร์ก ช่วงล่างแข็งและดีดแบบรถญี่ปุ่นใส่ช่วงล่างสตรัทซิ่ง ผมขับรถคันนี้วิ่งจากวงแหวนเข้าเมืองวกไปทองหล่อด้วยบรรยากาศตึงตังสุดขีดเพราะช่วงล่างสเป็ค AMG Sport ไม่ใช่ช่วงล่างแบบแปรผัน มันสนแต่ความสนุก แต่ไม่เกรงใจบั้นท้ายน้อยๆของแฟนคุณหรอกครับ

หากว่าคุณอยากได้โรดสเตอร์ไว้ขับพาสาวเที่ยว..SLC300 ที่ใช้ช่วงล่าง Sport แบบปกติที่นุ่มนวลกว่ากัน (แม้เพียงนิดเดียวก็เหอะ) มันเหมาะจะเป็นรถรับสาวเที่ยวกว่า เว้นเสียแต่ว่าคุณเจอสาวประเภทที่หลงใหลรถแรงเขาก็อาจจะยอมรับมันได้

พื้นที่ภายในของ SLC นั้น สบายกว่า Mazda MX-5 เล็กน้อย แต่ก็ยังแคบสไตล์สปอร์ตสองที่นั่งคันเล็ก ในกรณีของคนตัวกว้าง แผงประตูขวาจะดันไหล่ขวามากกว่า Porsche 718 Boxster จนต้องนั่งเอียงตัวไปทางด้านซ้ายถึงจะขับถนัด

แม้การใช้งานปกติ กับการขับคลานในเมือง ดูแล้วไม่ค่อยน่าอภิรมย์ แต่เมื่อถนนว่างแล้วได้กดคันเร่งเต็มๆ คุณจะลืมเกือบทุกข้อเสียที่มันมี พลัง 367 แรงม้า แรงบิด 520นิวตันเมตร แรงเหลือพอ รอบต่ำดึงตั้งแต่ 2000 รอบต่อนาที มาเร็วราวกับเครื่องยนต์ดีเซล แรงบิดสูง มาเป็นช่วงกว้าง และดึงไปแบบยาวๆหวานๆด้วยเสียง V6 Bi-turbo ซึ่งถ้าหากกดโหมด Sport Plus แล้วเสียงท่อจะดังสะใจกว่าเก่า

เมื่อบรรทุกคนนั่งตัวหนัก 2 คน พลังของ SLC43 ยังพอที่จะทำอัตราเร่งได้อย่างรุนแรง และถ้ามีพื้นที่สัก 1.7 กิโลเมตร มันก็สามารถทำความเร็วได้ถึง 244 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งอยู่ในย่านเดียวกับ BMW M2 แล้วล่ะครับ

เกียร์ 9G Tronic ที่ใช้ก็เป็นเกียร์อัตโนมัติแบบปกติของเบนซ์ แต่ AMG ปรับนิสัยจนดุเกือบเหมือนเกียร์ BMW มันเปลี่ยนไวกว่า กระชากกว่า มีอาการหน่วงมากกว่าเกียร์ 9G เวอร์ชั่นปกติใน SLC300 อย่างชัดเจน เล่น Paddleshift ก็สนุกและตอบสนองไวกว่า ทำตามคำสั่งมากกว่า

ช่วงล่างแข็ง มีอาการดีดแถมได้อารมณ์ประหลาดจากการที่คนขับนั่งอยู่ใกล้ล้อหลัง จึงรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงไปมาได้ตลอด พวงมาลัยมีระยะฟรีเยอะไป น่าจะเป็นเพราะการใช้งานและศูนย์ล้อ (SLC300 อีกคันพวงมาลัย Part No. เดียวกันแต่ระยะฟรีน้อยกว่า) แต่พอหักเลี้ยวเพิ่มอีกนิดกลับเลี้ยวไปทั้งคัน ทำให้เป็นรถที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจลักษณะการตอบสนอง ซึ่งยังไม่ถึงขนาดสั่งได้และพร้อมสนุกไปกับเราอย่างที่ BMW M2 เป็น และไม่ได้ให้บุคลิกแบบปลอดภัยไว้ใจได้มากเท่า C43

บางคนอาจจะชอบความเสียว แต่บางคนก็ไม่ชอบ เรื่องนี้ต้องแล้วแต่รสนิยมครับ

ท้ายสุดนี้ ถ้าว่ากันในเรื่องการเป็นรถซิ่งเยอรมัน M2 ทำได้ดีกว่าในเกือบจะทุกหัวข้อยกเว้นเรื่องการเปิดหลังคา..แต่เพราะมันราคา 6 ล้าน ทำให้ AMG 4.99 ล้านดูเป็นมิตรมากขึ้น แถมเปิดหลังคาได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณมองหาคำว่าคุ้มค่าจากรถราคา 4-6 ล้านบาท  ต้องการแรงม้ามากกว่า 300 ตัว แต่ใช้งานได้ทุกวัน C43 Coupe ที่มีระบบขับสี่ 4MATIC กับราคาที่ถูกกว่า SLC43 กว่า 800,000 บาท และมีช่วงล่างแบบที่ปรับแข็ง/นุ่มได้ น่าจะเป็นรถที่เหมาะกับจุดประสงค์นั้นมากกว่า

 

—-////—–