MG GS 1.5 Turbo X – 990,000THB

Likes : ขนาดตัวรถเกินกว่าราคา ช่วงล่างนิ่งและแน่น อัตราเร่งแรงพอ ใช้เดินทางได้สบาย
Hates : เกียร์ยังไม่นุ่มเวลาขับในเมือง แม้จะปรับมาดีกว่ารุ่น 2.0 แล้วก็ตาม อุปกรณ์บางจุดถูกถอดออกแลกกับค่าตัวที่ถูกลง

สูตรสำเร็จที่ได้ผลของ MG ในการเพิ่มยอดขายให้กับ GS อย่างได้ผลก็คือการนำตัวรถที่ใหญ่เกือบเท่า CX-5 มาบวกกับราคาของ CX-3 และ วิธีการจัดอุปกรณ์และ ตกแต่งภายในที่ไม่ทำให้รู้สึกว่าด้อยกว่ารุ่น 2.0 มากนัก แผงแดชบอร์ดเกือบจะเหมือนกัน มีซันรูฟ และ ระบบมัลติมีเดียแบบเดียวกัน เบาะทรงเดียวกันแม้หนังที่หุ้มจะเปลี่ยนเป็นหนังเทียมเพื่อลดต้นทุนลง เบาะหน้าสบายพอใช้ ในขณะที่เบาะหลังในภาพรวมสบายกว่า CX-5 (โฉม 2014-2016) แต่ยังไม่เท่า Nissan X-Trail 2.0V

เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ บวกกับเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้าเวลากระแทกคันเร่งเต็มๆ 0-100 ทำเวลาได้ใกล้เคียง 2.0 ขับสี่ และ CX-5 2.0 นี่ถ้าไม่มีการอมพลังช่วงออกตัวนิดๆอาจจะเลขสวยกว่านี้ อัตราเร่งแซงช้าลงกว่าตัว 2.0 เพราะม้าต่างกันเยอะ แต่ก็วิ่งไปกับคู่แข่ง 2.0 ไร้ระบบอัดอากาศที่มีแรงม้าใกล้เคียงกัน ส่วนหนึ่งเพราะเวลาคิกดาวน์รถจะไม่ยอมลงเกียร์ต่ำสุดทั้งที่มีรอบเหลือให้เล่นอีกบาน ส่วนตีนปลายไหลดีกว่าที่คาดแม้จะไม่ได้ใช้บ่อยขนาดนั้นก็ตาม

เกียร์คลัตช์คู่นิสัยดีขึ้นกว่ารุ่น 2.0 รู้จักการเลือกเกียร์ให้เหมาะกับถนน และ คันเร่งมากขึ้น โหมด Manual ยอมรับคำสั่ง Double paddle shift ทั้งเปลี่ยนเกียร์สูงและลงต่ำ แต่เวลาใช้งานในเมืองก็ยังมีอาการเย่อหน้าหลังโดยเฉพาะช่วงความเร็วน้อยกว่า 30 การเข้าเกียร์ W ช่วยได้นิดหน่อยเพราะคันเร่งมุทะลุน้อยลง (แต่รถยังออกตัวเกียร์ 1 อยู่ ไม่ใช่เกียร์ 2) สรุปแล้วคือใช้งานได้ดีขึ้นแต่ผมยังยืนยันว่าถ้าจะทำคลัตช์คู่แบบนี้ เอาออโต้แบบปกติดีๆมาใช้จะดีกว่ามั้ย

ช่วงล่าง ออกมาแนวแข็งเฟิร์ม แต่การที่ใช้ล้อขอบ 17 ซึ่งเล็กกว่าตัว 2.0 ทำให้แก้มยางหนา และ ซับแรงกระเทือนได้ดีขึ้น กลายเป็นรถหนึบแบบกึ่งสบายที่เดินทางไกลเร็วๆได้ดีเหลือเชื่อ กระโดดสะพานไม่มีเซ แต่ระวังตอนเข้าโค้งเพราะยางติดรถไม่ได้เกาะมาก ยิงโค้งเล่นหน่อยก็บาน ระบบทำงานไฟกระพริบ ส่วนพวงมาลัยไม่ไวมาก แต่น้ำหนักถือตรงหน่วงหนักคล้าย MG5 เบรกลึกแต่ไม่มากเท่า Altis, Colorado

GS 1.5 ในวันนี้ คือ MG คันแรกที่เห็นแรงม้าบนสเป็ค เห็นตัวเลขความเร็ว เห็นตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองของจริงแล้วรู้สึกว่าสมเหตุสมผลกว่า MG ทุกรุ่นที่ลองมา (แค่อย่าคิดว่า พันห้าแล้วต้องประหยัด หรือมีเทอร์โบแล้วต้องแรงเป็นพิเศษ มันก็วิ่งตามตัวเลขม้าต่อน้ำหนักของมัน)

เป็นรถที่เหมาะสำหรับคนงบจำกัด ต้องการรถใหญ่กว่า CX-3 และ HR-V หรือคนที่ชอบขับรถไกลๆเร็วๆ แต่ถ้าขับใช้งานในเมืองต้องทนกับอาการยึกยักที่ความเร็วต่ำมากกว่ารถของคู่แข่งระดับราคาเดียวกัน และ องค์ประกอบภายในยังขาดความทันสมัยในดีไซน์ซึ่งยังดูเหมือนหลุดมาจากยุค iPhone3G อยู่

——/////——