Toyota C-HR รุ่นปัจจุบัน เจเนอเรชั่นที่ 2 เปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อปี 2023 ในฐานะทายาท Compact Crossover รุ่นขับดีแถมมีดีไซน์สุดโต่งที่สุดคันหนึ่งของค่าย ความสุดโต่งของ C-HR แม้จะได้ใจแฟนๆ หลายคน ทว่าอีกด้านก็กลายเป็นตัวชี้ชะตาให้ได้ไปต่อเฉพาะสำหรับบางตลาด เช่น ยุโรป เป็นต้น ล่าสุด Toyota EU ได้ทำการเปิดตัว C-HR รุ่นปี 2025 ซึ่งมาพร้อมรุ่นย่อยใหม่ C-HR High Hero มีทางเลือกสีใหม่ Metal Oxide

 

Toyota C-HR High Hero ได้รับการอัพเดทดีไซน์ภายนอกเล็กน้อย เริ่มจากการติดตั้งล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ตามด้วยสีใหม่ที่มีชื่อว่า Metal Oxide โดยสีตัวถังภายนอก มีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ Bi-tone หลังคาดำ ล้อปัดเงา และแบบ Bi-tone+ หลังคาและบั้นท้ายดำ พร้อมล้อสีดำล้วน นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังเปลี่ยนใช้วัสดุหนังสังเคราะห์ ตัดสลับกับผ้า Suede โทนสีดำ-แดง แบบเดียวกับรุ่น GR Sport

สำหรับอุปกรณ์มาตรฐาน ยังคงติดตั้งมาให้ครบ อาทิ หน้าจอชุดมาตรวัดแบบ Full-digital ขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 12.3 นิ้ว ไฟ Ambient Light ปรับได้ 64 เฉดสี รวมถึงหลังคากระจก Panoramic Sunroof เสริมด้วยระบบกระจกกรองแสงและรังสีอินฟาเรด (ทดแทนม่านบังแดดแบบดั้งเดิม) ช่วยลดนำ้หนักไปได้ราวๆ 5 กิโลกรัม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ หรือ Headroom ได้ถึง 30 มิลลิเมตร

 

ขุมพลังขับเคลื่อนของ C-HR High Hero มีให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ เช่นเดียวกับรุ่นปกติ

Hybrid 140

เครื่องยนต์2ZR-FXE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.8 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 94 แรงม้า รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 140 แรงม้า (HP) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า

Hybrid 200

เครื่องยนต์ M20A-FXS เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection (D-4S) กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 112 แรงม้า รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 198 แรงม้า (HP) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ E-FOUR

Plug-in hybrid 220

เครื่องยนต์ M20A-FXS เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.0 ลิตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection (D-4S) กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 163 แรงม้า รวมพละกำลังสูงสุดทั้งระบบ 223 แรงม้า (HP) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 13.6 kWh วิ่งด้วยไฟฟ้าไกลสุด 66 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ E-FOUR

 

นอกเหนือจากการเปิดตัว C-HR High Hero ซึ่งจะเริ่มทยอยขึ้นโชว์รูมเร็วๆ น้ีแล้ว Toyota ยุโรป ยังเผยเพิ่มเติมว่าจะมีการอัพเดทอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับรุ่นท็อปสุดอย่าง C-HR GR Sport MY2025 ไม่ว่าจะเป็น ชุดโช๊คอัพใหม่จาก FSC รวมถึงล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ฯลฯ ด้วยเช่นกัน

ที่มา : Toyota